โรคราน้ำค้างข้าวโพด ข้าวโพดเป็นราขาว เกิดจากเชื้อรา Peronosclerospora sorghi ใช้ ไอเอส และบำรุงให้ฟื้นตัวด้วย FK-1
โรคข้าวโพดใบลาย โรคราน้ำค้าง ในข้าวโพด
สาเหตุเกิดจากเชื้อรา Peronosclerospora sorghi โรคราน้ำค้างข้าวโพดนี้ เกิดได้ตั้งแต่ระยะงอกของข้าวโพด อาการที่สังเกตุได้คือ จะพบจุดสีเขียวเล็กๆ บนใบอ่อนของข้าวโพด และใบข้าวโพด จะเริ่มีสีเหลืองซีด อาการจะแสดงได้ทั้งใบและยอดข้าวโพด ส่วนอาการใบลาย ใบข้าวโพดจะเป็นทางสีเขียวอ่อน สลับสีเขียวแก่ ช่วงเช้าๆ จะพบผงของเชื้อราสีขาวจำนวนมากบนผิวใบ บางครั้งทำให้ต้นข้าวโพดเตี้ย แคระแกร็น ไม่มีฝัก หรืออาจจะมีฝัก แต่จะติดเมล็ดน้อย หรืออาจจะไม่ติดเมล็ดเลยก็เป็นได้
ปัจจัย ที่จะทำให้เกิดโรค ราน้ำค้างในข้าวโพด
- ข้าวโพดที่ปลูกปลายฤดูฝน มีโอกาสเป็นโรคราน้ำค้างสูง
- พื้นที่ปลูก เคยเป็นพื้นที่ ที่มีโรคราน้ำค้างข้าวโพดระบาด ในฤดูปลูกก่อนหน้า
- พื้นที่ปลูก ที่อยู่ใกล้กับแปลงข้างเคียง ที่มีการระบาดของโรคราน้ำค้าง
ป้องกันและกำจัดโรค ราน้ำค้างข้าวโพด ฉีดพ่นด้วย ไอเอส และบำรุงให้ฟื้นตัวด้วย FK-1
ผสม ไอเอส สารอินทรีย์ป้องกันและยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ในอัตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร หรือ 500ซีซี ต่อน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณแปลงข้าวโพด ที่มีการระบาดของโรคราน้ำค้าง
การสังเกตุว่า ข้าวโพดหายจากโรคราน้ำค้าง แล้วหรือยัง ให้สังเกตุว่า โรครานั้น หยุดระบาดลุกลามแล้วหรือยัง หากเชื้อราฝ่อตายลงไปแล้ว จะทำให้โรคราน้ำค้าง ไม่ระบาดติดต่อเพิ่มขึ้นในแปลง แต่ข้าวโพดเอง ต้องใช้เวลาสักระยะ เพื่อฟื้นตัวจากความเสียหาย จากการเข้าทำลายของโรคราน้ำค้าง
ฉนั้นแล้ว การผสม FK-1 ฉีดพ่นไปพร้อมกันกับไอเอส เป็นการให้ ธาตุอาหารพืช ธาตุหลัก N-P-K ธาตุรอง และธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อความต้องการของต้นข้าวโพด เพื่อซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย และฟื้นตัวกลับมาเจริญเติบโตได้ดีอีกครั้งหนึ่ง
สั่งซื้อได้ที่ลิงค์ http://www.farmkaset.org/html5/customer_update_add_self.aspx
หรือโทร 090-592-8614
หรือ ไลน์ไอดี FarmKaset
อ้างอิงบางส่วนจาก http://www.doa.go.th/fc/nakhonsawan/?p=1441
สาเหตุเกิดจากเชื้อรา Peronosclerospora sorghi โรคราน้ำค้างข้าวโพดนี้ เกิดได้ตั้งแต่ระยะงอกของข้าวโพด อาการที่สังเกตุได้คือ จะพบจุดสีเขียวเล็กๆ บนใบอ่อนของข้าวโพด และใบข้าวโพด จะเริ่มีสีเหลืองซีด อาการจะแสดงได้ทั้งใบและยอดข้าวโพด ส่วนอาการใบลาย ใบข้าวโพดจะเป็นทางสีเขียวอ่อน สลับสีเขียวแก่ ช่วงเช้าๆ จะพบผงของเชื้อราสีขาวจำนวนมากบนผิวใบ บางครั้งทำให้ต้นข้าวโพดเตี้ย แคระแกร็น ไม่มีฝัก หรืออาจจะมีฝัก แต่จะติดเมล็ดน้อย หรืออาจจะไม่ติดเมล็ดเลยก็เป็นได้
ปัจจัย ที่จะทำให้เกิดโรค ราน้ำค้างในข้าวโพด
- ข้าวโพดที่ปลูกปลายฤดูฝน มีโอกาสเป็นโรคราน้ำค้างสูง
- พื้นที่ปลูก เคยเป็นพื้นที่ ที่มีโรคราน้ำค้างข้าวโพดระบาด ในฤดูปลูกก่อนหน้า
- พื้นที่ปลูก ที่อยู่ใกล้กับแปลงข้างเคียง ที่มีการระบาดของโรคราน้ำค้าง
ป้องกันและกำจัดโรค ราน้ำค้างข้าวโพด ฉีดพ่นด้วย ไอเอส และบำรุงให้ฟื้นตัวด้วย FK-1
ผสม ไอเอส สารอินทรีย์ป้องกันและยับยั้งโรคพืช ที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ในอัตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร หรือ 500ซีซี ต่อน้ำ 200ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณแปลงข้าวโพด ที่มีการระบาดของโรคราน้ำค้าง
การสังเกตุว่า ข้าวโพดหายจากโรคราน้ำค้าง แล้วหรือยัง ให้สังเกตุว่า โรครานั้น หยุดระบาดลุกลามแล้วหรือยัง หากเชื้อราฝ่อตายลงไปแล้ว จะทำให้โรคราน้ำค้าง ไม่ระบาดติดต่อเพิ่มขึ้นในแปลง แต่ข้าวโพดเอง ต้องใช้เวลาสักระยะ เพื่อฟื้นตัวจากความเสียหาย จากการเข้าทำลายของโรคราน้ำค้าง
ฉนั้นแล้ว การผสม FK-1 ฉีดพ่นไปพร้อมกันกับไอเอส เป็นการให้ ธาตุอาหารพืช ธาตุหลัก N-P-K ธาตุรอง และธาตุเสริม ที่จำเป็นต่อความต้องการของต้นข้าวโพด เพื่อซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย และฟื้นตัวกลับมาเจริญเติบโตได้ดีอีกครั้งหนึ่ง
สั่งซื้อได้ที่ลิงค์ http://www.farmkaset.org/html5/customer_update_add_self.aspx
หรือโทร 090-592-8614
หรือ ไลน์ไอดี FarmKaset
อ้างอิงบางส่วนจาก http://www.doa.go.th/fc/nakhonsawan/?p=1441
Comments
Post a Comment