Posts

Showing posts from June, 2015

ส่งออกข้าว : พ.ค. 9.45 แสนตันพุ่ง 7%

Image
เปิดตัวเลขส่งออกข้าวเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 7.3% ปริมาณ 9.45 แสนตัน สูงสุดในรอบปีนี้ ขณะที่ยอดรวม 5 เดือน ยังติดลบทั้งปริมาณและมูลค่า ระบุบาทอ่อน กดราคาข้าวไทยลงเล็กน้อย รายงานข่าวจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สถิติการส่งออกข้าวในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2558 (ม.ค.-พ.ค.) มีปริมาณ 3,772,158 ตัน มูลค่า 61,360 ล้านบาท โดยปริมาณลดลง 1.4% และมูลค่าลดลง 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่มีปริมาณส่งออก 3,824,785 ตัน มูลค่า 63,076 ล้านบาท โดยการส่งออกข้าวในเดือน พ.ค. มีปริมาณ 945,597 ตัน มูลค่า 14,110 ล้านบาท โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 7.3% และเป็นปริมาณการส่งออกต่อเดือนที่สูงสุดในปีนี้ โดยเป็นการส่งออกข้าวขาว ปริมาณ 507,320 ตัน เพิ่มขึ้น 56.2% ข้าวนึ่ง ปริมาณ 211,696 ตัน เพิ่มขึ้น 18.7% ข้าวหอมมะลิ ปริมาณ 201,427 ตัน เพิ่มขึ้น 13.5% สำหรับสถานการณ์ราคาส่งออกข้าวในเดือน มิ.ย.อยู่ในระดับค่อนข้างทรงตัวจากเดือน พ.ค. ขณะที่ประเทศคู่แข่งที่สำคัญ เช่น เวียดนาม ยังคงเร่งขายข้าวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับค่าเงินบาทยังคงมีทิศทางอ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาข้าวส่งออกปรับลดลงด้วย ทั้งนี้ ราคาที่ประกา

กะหล่ำปลี : ยับยั้งไม่ให้น้ำตาล และแป้งกลายเป็นไขมัน ช่วยลดคอเลสเตอรอล

Image
เป็นผักที่มีกรดทาร์ทาริก ที่ช่วยยับยั้งและขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายเป็นไขมัน จึงมีส่วนในการช่วยลดน้ำหนักและคอเลสเตอรอล กะหล่ำปลี มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเมดิเตอร์เรเนียน และภายหลังได้แพร่กระจายทั่วไป มี 3 ชนิด คือ กะหล่ำปลีธรรมดา กะหล่ำปลีแดง และ กะหล่ำปลีใบย่น เป็นผักที่มีกรดทาร์ทาริก ที่ช่วยยับยั้งและขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายเป็นไขมัน จึงมีส่วนในการช่วยลดน้ำหนักและคอเลสเตอรอล ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน เพราะอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แข็งแรง ป้องกันหวัด พร้อมทั้งช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ช่วยคงความอ่อนเยาว์ได้อีกด้วย.“ ข้อมูลทั้งหมดจาก dailynews.co.th/agriculture/331447

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร ระหว่าง 29 มิถุนายน 2558 - 05 กรกฎาคม 2558

Image
ภาคเหนือ        มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. - สัปดาห์นี้ แม้จะมีฝนตกแต่ปริมาณมีน้อยไม่เพียงพอกับความต้องการของพืช เกษตรกรควรดูแลให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะพืชผักเพราะหากขาดน้ำจะทำให้พืชเหี่ยวเฉาชะงักการเจริญเติบโต ผลผลิตด้อยคุณภาพ รวมทั้งคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืช ด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และรักษาความชื้นในดิน - ส่วนลำไยที่อยู่ในระยะผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยว เกษตรกรควรระวังและป้องกันสัตว์ศัตรูพืชต่างๆ เช่น ค้างคาว กระรอก และผีเสื้อมวนหวาน เป็นต้น ซึ่งจะกัดกิน และดูดน้ำหวานจากผลทำให้ผลเน่าเสียและร่วงหล่น ผลผลิตด้อยคุณภาพ - สำหรับพื้นที่ซึ่งมีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางด้านการเกษตร รวมทั้งวางแผนการจัดการน้ำที่เก็บกักไว้ให้มีประสิทธิภาพเพื่อจะได้มีน้ำใช้ในระยะที่มีฝนตกน้อย หรือฝนทิ้งช่วง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ        ในช่วงวันที่ 29 มิ.ย. - 4 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองบาง

ดอกมณฑิรา : ปลูกในกระถางดอกสวย

Image
ไม้ต้นนี้ มีวางขาย มีป้ายชื่อเขียนติดไว้ว่า “มณฑิรา” และมีภาพถ่ายของดอกจริงแขวนโชว์ให้ชมด้วย ทีแรกที่เห็นคิดว่าเป็นมณฑาป่าหรือมณฑาดอยที่เคยแนะนำในคอลัมน์ไปแล้ว แต่ผู้ขายยืนยันว่าเป็นคนละชนิดกัน เพียงแต่ลักษณะดอก สีสันของดอกจะคล้ายกันเท่านั้น และผู้ขายบอกต่ออีกว่าถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่ารูปทรงของดอก “มณฑิรา” จะกลมป้อมกว่าดอกของมณฑาป่าหรือมณฑาดอยที่ดอกจะกลมรีและยาวกว่าอย่างชัดเจน จาก การดูต้นจริงที่วางขาย ประกอบกับภาพถ่ายของดอกแล้ว “มณฑิรา” น่าจะอยู่ในสกุล MAGNOLIACEAE ซึ่งผู้ขายบอกว่าถูกต้องและบอกลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่บริเวณปลายยอด เนื้อใบหนา คล้ายแผ่นหนังเป็นรูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ใบมีขนาดใหญ่ สีเขียวสด เวลาใบดกให้ร่มเงาดีมาก ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ ตามซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกขณะตูมเป็นรูปกลมป้อมหรืออาจรีเล็กน้อย ดอกเป็นสีชมพูอมแดงตั้งแต่ดอกยังตูมอยู่ เรื่อยไปจนกระทั่งดอกแก่และร่วงโรยไป กลีบดอกเป็นรูปกระทง มี 3 กลีบ เรียงซ้อนกันหลายชั้น กลีบชั้นนอกสุดเมื่อบานจะกางออกตามภาพประกอบคอลัมน์ เนื้อกลีบดอกค่อนข้างหนาและอวบ

การปลูกสะตอ : ในพื้นที่ภาคอีสาน

Image
สะตอ พืชผักยืนต้นที่มีแหล่งกำเนิดมาจากภาคใต้ของประเทศไทย เป็นผักพื้นบ้านที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง อาทิ สะตอผัดกุ้ง แกงส้มสะตอกุ้ง แกงเผ็ดใส่สะตอ เป็นต้น ปัจจุบันสะตอจัดเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีผู้นิยมรับประทานกันมากขึ้น จึงทำให้ความต้องการบริโภคสะตอมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้มีผู้สนใจปลูกสะตอกันอย่างแพร่หลายกระจายเกือบทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดศรีสะเกษซึ่งถือว่าเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน คุณสมพร ไชยสุวรรณ เกษตรกรวัย 43 ปี เป็นผู้ริเริ่มปลูกสะตอบนพื้นที่ 18 ไร่ ในจังหวัดศรีสะเกษ มานานกว่า 20ปี โดยเริ่มต้นปลูกครั้งแรกในปี พ.ศ.2532จากการใช้พื้นที่เอกสารสิทธิ์ สปก.มาทำการเพาะปลูก ได้นำเมล็ดพันธุ์สะตอมาจากญาติที่จังหวัดตรัง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วทางภาคใต้จะมีการปลูกสะตอเพียงรายละ 2-3 ต้นเท่านั้น เพื่อใช้บริโภคในครัวเรือน ทำให้คุณสมพรมีแนวคิดที่จะนำสะตอมาปลูกในรูปแบบสวนที่จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศที่ใกล้เคียงกันกับทางภาคใต้ คุณสมพรจึงปลูกทั้งสะตอข้าวและสะตอดานในพื้นที่ 18ไร่ จำนวนทั้งสิ้น 300 ต้น ต่อมาได้มีการขยายพื้นที่ปลูกไปยังตำบลต่างๆ ในอำเภอขุนหาญและอำ

คุมเข้มคุณภาพปาล์ม : หลัง1สค.น้ำมันต่ำกว่า17% อาจถูกปฏิเสธรับซื้อ

Image
นายคนิต ลิขิตวิทยาวุฒิ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป สำนักงานคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (สกกร.) ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ จะออกประกาศให้โรงงานสกัดน้ำมันหรือลานเทรับซื้อผลปาล์มทะลายและผลปาล์มร่วงจากเกษตรกรในราคาเดียว อัตราน้ำมันไม่ต่ำ กว่าร้อยละ 17 ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.20 บาท และถ้าผลปาล์มทะลายที่นำมาขายมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงกว่าร้อยละ 17 ทุก 1% ที่เพิ่มขึ้น จะได้ราคาเพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 0.30 บาท ในขณะที่หากเกษตรกรนำปาล์มที่ไม่มีคุณภาพหรือมีเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่า 17% ทางโรงสกัดน้ำมันหรือลานเทอาจปฏิเสธการรับซื้อได้ ดังนั้น เกษตรกรต้องดูแลสวนปาล์ม และตัดผลปาล์มที่สุกโดยสังเกตจากทะลายที่มีผลสุก มีสีผลปาล์มสุกตรงตามพันธุ์และมีผลปาล์มร่วงที่สุกธรรมชาติ 5-10 เมล็ดต่อทะลาย ซึ่งจะทำให้เกษตรกรสามารถขายผลปาล์มทะลายที่มีคุณภาพตามราคาประกาศได้ ทั้งนี้ จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในจังหวัดที่มี

บร็อคโคลี่ : สารพัดประโยชน์ ในบร็อคโคลี่ ผักดี ๆ ที่หาทานได้ไม่ยาก

Image
สารพัดประโยชน์ ในบร็อคโคลี่ ผักดี ๆ ที่หาทานได้ไม่ยาก บร็อคโคลี่ ชื่อภาษาอังกฤษ Broccoli หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Brassica oleracea var. italica จัดอยู่ในตระกูล Cruciferae ซึ่งมีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในทางตอนใต้ของยุโรป แถว ๆ ประเทศอิตาลี และภายหลังได้มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทย โดยแหล่งที่ปลูกบร็อคโคลี่มากที่สุดในบ้านเราก็คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ กาญจนบุรี และกรุงเทพ         ต้นบร็อคโคลี่ มีลักษณะเป็นทรงพุ่มใหญ่เก้งก้าง ลำต้นใหญ่และอวบ ลักษณะของดอกมีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 16 เซนติเมตร จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มช่อหนาแน่นมีสีเขียวเข้ม ส่วนลักษณะของใบจะกว้างมีสีเขียวเข้มออกเทา ริมขอบใบหยัก ตามปกติแล้วเราจะนิยมบริโภคในส่วนที่เป็นดอกและในส่วนของลำต้นจะนิยมรองลงมา แต่คุณค่าทางอาหารกลับมีอยู่มากในส่วนของลำต้น ดังนั้นการรับประทานทั้งสองส่วน ร่างกายก็จะได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดนั่นเองจากการศึกษาวิจัยของมหาลัยอิลลินอยส์พบว่าการรับประทานบร็อคโคลี่ โดยเฉพาะหน่อหรือต้นอ่อนของบร็อคโคลี่นั่น เมื่อรับประทานร่วมกับ ต้นอ่อนของบร็อคโคลี่จะช่วยต่อต้านโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ! เ

เยียวยาภัยแล้ง : ลดราคาปุ๋ย-ค่าเกี่ยวข้าว ช่วยเกษตรกรพื้นที่เสี่ยง

Image
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นทั่วประเทศเข้าขั้นวิกฤติในขณะนี้ ว่า นายชิดชนก สมประเสริฐ ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ที่เหลือน้อยลง โดยเฉพาะเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว ที่ขณะนี้น้ำในเขื่อนใช้การได้ประมาณ 18% หรือประมาณ 57 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ถ้าพิจารณาจากการใช้น้ำโดยปกติเฉลี่ยตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ตุลาคมนี้ น่าจะใช้ประมาณ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงไม่เหลือน้ำแน่นอน อย่างไรก็ดี หากฝนตกต้องตามฤดูกาล หากประเมินค่าเฉลี่ยแล้วตรงนี้ไม่น่ามีปัญหา แต่ถ้าฝนทิ้งช่วงก็อาจมีผลกระทบต่อเกษตรกร ชลประทานโคราชชะลอปล่อยน้ำ นายชิดชนก เปิดเผยด้วยว่า ได้มีการประชาสัมพันธ์ในเขตชลประทาน ว่าขอให้ชะลอการปล่อยน้ำ รอดูสถานการณ์ฝนในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ หากฝนตกและทิ้งช่วง ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ไว้ ก็จะมีการประเมินการบริหารจัดการกันใหม่ เพราะระยะเวลายิ่งใกล้มากการพยากรณ์ก็จะแม่นยำ และถ้าฝนจะเริ่มตกชุกในเดือนสิงหาคม ก็จะไม่มีปัญหา พี่น้องเกษตรกรชาวนาก็หว่านข้าวและเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ย้ำ

ต้นสาคู : พืชอาหารพลังงานที่ถูกลืม

Image
                      ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์และคนทั่วไปวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศโลกซึ่งมีหลักฐานว่าโลกจะร้อนขึ้น เมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนั้นอาจจะมีผลต่อพืชอาหารที่ให้พลังงานปัจจุบัน เช่นมันฝรั่ง ข้าวสาลี ข้าว และข้าวโพดที่อาจจะปลูกไม่ได้ในพื้นที่ที่เคยปลูก ซึ่งย่อมเป็นผลให้ปริมาณอาหารพลังงานไม่เพียงพอต่อการบริโภคของประชากรโลก  สาคูอาจเป็นพืชอาหารพลังงานทางเลือกหนึ่งที่ทดแทนพืชเหล่านั้นได้เนื่องจากสาคูสามารถผลิตแป้งได้มากกว่าข้าวและข้าวสาลีหลายเท่าในพื้นที่เท่ากัน เมื่อเอ่ยถึงสาคู เราจะคุ้นหูกับสาคูไส้หมูและขนมเปียกสาคูหน้ากะทิ ซึ่งเป็นอาหารคาว-หวาน ที่คนไทยชอบรับประทาน แต่น้อยคนนักที่ทราบว่าเม็ดสาคูที่ใช้ทำขนมดังกล่าวทำมาจากอะไร  คนที่รู้จักต้นสาคูอาจเข้าใจว่าเม็ดสาคูมาจากต้นสาคูที่พวกเขารู้จัก แต่จริงๆแล้วไม่เป็นอย่างนั้น  เม็ดสาคูที่ใช้ทำขนมที่เรารับประทานกันเป็นประจำทำมาจากแป้งมันสำปะหลังที่มีลักษณะคล้ายแป้งสาคู  สมัยก่อนเม็ดสาคูทำมาจากต้นสาคูที่เป็นพืชตระกูลปาล์มอย่างที่พบในภาคใต้  แต่หลังจากมีการนำเข้ามันสำปะหลังมาปลูกในประเทศไทยอย่างแพร่หลาย การทำเม

ลิ้นจี่เวียดนาม : เตรียมส่งไปจำหน่ายยัง EU

Image
ผลจากการทำโครงการศึกษาวิจัยร่วมด้านตลาดผลไม้ล่าสุดระหว่าง EU โดย Belgium’s Gembloux Agricultural University และเวียดนาม โดย Ha Noi Agriculture Rural Development โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำเวียดนาม ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้กรอบการส่งเสริมการค้าอย่างเป็นธรรมระหว่าง EU และเวียดนาม ซึ่งภายใต้โครงการดังกล่าวได้มีการใช้เวลาถึง 2 ปี ในการคัดเลือกภูมิประเทศในเวียดนามที่มีศักยภาพในการเพาะเลี้ยงลิ้นจี่ โดยเมืองที่ได้รับการถูกคัดเลือกว่าเหมาะสมที่สุด ได้แก่ เมือง Thanh Ha, Hai Duong ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม โดยมีบริษัท Ngoc Canned Food Company ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นบริษัท ผู้แปรรูปลิ้นจี่สดเป็นลิ้นจี่กระป๋องเพื่อส่งออกไปจำหน่ายยัง EU โดยตรง ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวได้ผ่านการยอมรับจาก EU ในด้านมาตรฐานสุขอนามัยและเทคโนโลยีการบรรจุผลไม้กระป๋องด้วยแล้ว จากรายงานดังกล่าวข้างต้น เป็นการส่งสัญญาณว่า เวียดนามกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำหรับการส่งออกสินค้าลิ้นจี่กระป๋องของไทยในตลาด EU ในอนาคตอันใกล้ (เป็นครั้งแรกที่เวียดนามจะส่งออกลิ้นจี่กระป๋องไปจำหน่ายยัง EU) ทั้

เห็ดตับเต่า : เทคนิคเพาะเห็ดตับเต่าด้วยวิธีง่าย ๆ

Image
เห็ดตับเต่า เห็ดผึ้ง หรือเห็ดห้า เป็นเชื้อรากลุ่มเอ็คโตมัยโคไรซ่า เป็นเห็ดที่อาศัยอยู่กับรากพืช คือเห็ดจำพวกนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีพืชเป็นที่อาศัยครับ เส้นใยของเห็ดตับเต่าจะเจริญดีมากจากรากอ่อน จนถึงปลายราก แต่เราจะใส่เชื้อที่โคนรากของต้นไม้อาศัย ในช่วงแรกเชื้อเห็ดตับเต่าจะอาศัยอยู่ที่โคนราก แล้วค่อยๆ ลามไปจนทั่วปลายราก เห็ดตับเต่าจะออกดอกเห็ด ให้เราได้รับประทานเฉพาะในช่วงหน้าฝน (ยกเว้นเพาะนอกฤดู) และเห็ดประเภทนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีพืชอาศัย พืชอาศัยของเห็ดตับเต่าก็มี ลำไย ลิ้นจี่ หว้า มะกอกน้ำ แคบ้าน  กระถิน ส้มโอ  โสน  มะม่วง มะกอกบ้าน มะกอกน้ำ เป็นต้น ส่วนวิธีการเพาะเห็ดตับเต่า หลักๆก็มีด้วยกันเพียง 4 วิธีดังนี้ครับ เทคนิคเพาะเห็ดตับเต่าด้วยวิธีง่าย ๆ 1. ขยายพันธุ์ด้วยสปอร์ คือรอให้สปอร์เห็ดพัดมากับ ลม น้ำ หรือสัตว์ที่กินเห็ดมาถ่ายใส่ไว้ให้ 2. นำดอกเห็ดแก่ (ดอกเห็ดแก่จะมีสปอร์อยู่มาก) ไปปั่นละลายกับน้ำ ราดไว้ที่โคนต้นไม้อาศัย 3. นำหัวเชื้อขยาย (ก้อนเชื้อที่ทำไว้แล้ว) มาผสมกับน้ำราดไว้ที่โคนต้นไม้อาศัย..ผมสั่งซื้อจาก ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงรายครับ เขาส่งถึงบ้าน ก้อนละ 40 บาท

ไทยต้องพร้อมรับมือเออีซีอย่างเป็นทางการ

Image
การเคลื่อนย้ายแรงงานที่มีฝีมือไปทำงานในต่างประเทศ และแรงงานไร้ฝีมือจากประเทศเพื่อนบ้านหลั่งไหลเข้ามาแทน อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมา ขณะที่แรงงานภาคเกษตรก็มีแนวโน้มลดลง การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ เออีซี อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ธ.ค.2558 นี้ ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเกษตรนั้น จะเดินไปในทิศทางใด ได้เปรียบหรือมีผลกระทบอย่างไรบ้างนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้ทำการวิเคราะห์ทั้งด้านบวกและด้านลบไว้แล้ว หลังจากเปิดเออีซีในปี 2559 จะมีการเคลื่อนย้ายแรงงาน สินค้าและที่อยู่อาศัยอย่างเสรี โดยในส่วนของการเคลื่อนย้ายแรงงานนั้น ตั้งแต่ปี 2556 ประเทศไทยได้มีการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วัน ซึ่งสูงกว่าประเทศในกลุ่ม ยกเว้นประเทศสิงคโปร์ ส่งผลให้จะมีแรงงานจากประเทศเมียนมา กัมพูชา และลาว เข้ามาทำงานในประเทศไทยจำนวนมาก จึงเกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยที่มีฝีมือไปทำงานในต่างประเทศ และแรงงานไร้ฝีมือจากประเทศเพื่อนบ้านหลั่งไหลเข้ามาแทนเป็นจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมา ขณะที่แรงงานภาคเกษตรก็มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเป็นอาชีพที่ต้องทำงานหนัก รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและปัจจัยแวดล

ส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่า

Image
นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมฯ ได้จัดทำโครงการส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่าเพื่อรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า AFTA โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ดำเนินงานสนับสนุนแผนพัฒนาอุตสาห กรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม และเป็นการเตรียมความพร้อมเกษตรกรสำหรับการที่ประเทศไทยได้เปิดเสรีการค้าสินค้าน้ำมันปาล์มและเมล็ดในปาล์มตามข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ซึ่งได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 เป็นปีที่ 1 และปีที่ 2 ดำเนินการปลูกทดแทนไปแล้วกว่า 20,000 ไร่ และอยู่ระหว่างดำเนินการ ระยะที่ 3 อีก 10,000 ไร่ พื้นที่ดำเนินการใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ สุราษฎร์ธานี ชุมพร ตรัง และจังหวัดสตูล มีเกษตรกรเป้าหมาย จำนวน 1,000 ราย สำหรับการดำเนินงานระยะที่ 3 (พ.ศ.2557–2559) ได้กำหนดแผนการดำเนินงาน โดยทำการประชาสัมพันธ์รับสมัครเกษตรกรและคัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 1,172 ราย พื้นที่ 10,000 ไร่ มีจังหวัดกระบี่ 420 ราย พื้นที่ 3,600 ไร่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2

ข้าวเหนียวไทย มีปัญหาการผลิต ชี้ ทำตามวิถีธรรมชาติ ชีวิตพอเพียง

Image
นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรฯ เปิดเผยภายหลังการพบชาวนา หัวไวใจสู้ ที่เข้ารับการอบรมหลักสูตร "การพัฒนากสิกรรมธรรมชาติสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาข้าวเหนียว" ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง จังหวัดชลบุรี ว่า ข้าวเหนียวนับเป็นสินค้าที่มีความสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม นอกจากการผลิตเพื่อบริโภคในประเทศแล้ว ยังมีการส่งออกข้าวเหนียวนำรายได้เข้าสู่ประเทศอีก แต่กระบวนการผลิตและการค้าข้าวเหนียวของไทย ยังประสบปัญหาทั้งด้านประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาองค์ความรู้ของชาวนา การสร้างมูลค่าเพิ่มและการตลาด ซึ่งราคาข้าวเปลือกในแต่ละปีมีความผันผวนมาก ส่งผลให้ชาวนาส่วนใหญ่ที่เป็นชาวนารายย่อยจากการปลูกข้าวไม่เพียงพอกับการดำรงชีพ จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาระบบการผลิตข้าวเหนียวไทยและชาวนา ทั้งนี้ในส่วนของการขับเคลื่อนโครงการปฏิรูปข้าวเหนียว ในภาคการผลิตนั้น นอกจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กรมการข้าว ได้ดำเนินการส่งเสริมการผลิตในลักษณะให้มีการปรับลดต้นทุนการผลิต โดยไม่ใช้สารเคมี ด้วยวิถีกสิกรรมธรรมชาติตามศาสตร์พระราชา ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ชีวิตที่พอเพียง ตามบันได 9 ขั้น เพื่อความมั่งคั่ง

จำปาดะ

Image
ชาวภาคใต้เมื่อครั้งก่อนนิยมใช้เนื้อจำปาดะสุกมาเป็นยาระบายอ่อน ๆ และเนื้อผลอ่อน มาช่วยแก้อาการท้องเสีย จำปาดะ มีถิ่นกำเนิดในคาบสมุทรมลายู อินโดนีเซีย และเกาะนิวกินี ในบ้านเราจะนิยมปลูกกันมากทางภาคใต้ ให้ผลเพียงปีละครั้ง ประมาณเดือนพฤษภาคมเนื้อของผลสุกมีประโยชน์ในการช่วยบำรุงร่างกาย มีวิตามินเอสูงช่วยบำรุงและรักษาสายตา เส้นใยของจำปาดะสามารถช่วยขับไขมันและสารพิษออกไปจากร่างกายได้ ชาวภาคใต้เมื่อครั้งก่อนนิยมใช้เนื้อจำปาดะสุกมาเป็นยาระบายอ่อน ๆ และเนื้อผลอ่อน มาช่วยแก้อาการท้องเสีย ในทางภาคเหนือของมาเลเซียที่ติดกับภาคใต้ของไทยนิยมใช้รากของจำปาดะมาเป็นส่วนผสมของยาสมุนไพรแบบดั้งเดิมใช้สำหรับหญิงที่เพิ่งคลอดบุตร จำปาดะ ลักษณะทางธรรมชาติ - เป็นไม้ผลยืนต้นขนาดใหญ่ถึงใหญ่มาก  ปลูกได้ทุกพื้นที่ของประเทศ  เจริญเติบโตได้ดีในเขตภาคใต้ที่มีฝนตกชุก ดินดำร่วน เนื้อดินลึก มีอินทรีย์วัตถุมาก ระบายน้ำและอากาศถ่ายเทดี  ไม่ทนต่อสภาพน้ำขังค้างนาน               - เป็นพืชสกุลเดียวกันกับขนุนซึ่งสามารถทาบกิ่งหรือเปลี่ยนยอดไปมาซึ่งกันและกันได้ - ออกดอกติดผลทั้งที่ลำต้นและใต้ท้องกิ่งแก่ขนาดใหญ่  ผลท

ตั๊กม้อ หรือ พระโพธิธรรม หรือ ตะโม ภิกขุ กันแน่

Image
พระโพธิธรรม - ปฐมาจารย์นิกายเซนในจีน "พระโพธิธรรม" (ชื่อไทย) หรือ "ตะโม ภิกขุ" (ชื่ออินเดีย) หรือ ท่าน"ตั๊กม้อ" (ชื่อจีน) เป็นพระภิกษุชาวชมพูทวีป (อินเดีย) ท่านเกิดเมื่อราว พ.ศ. ๑๐๑๓ เป็นโอรสองค์ที่ ๓ ของพระเจ้าแผ่นดินแคว้นคันธารราช ประเทศอินเดีย (ใกล้เมืองมัทราสหรือเจนไนในอินเดียปัจจุบัน) มีนัยน์ตาสีฟ้า ตั้งแต่อายุยังเยาว์ ทรงปราดเปรื่องและแตกฉานในคัมภีร์ของทุกศาสนาและวรรณคดีอักษรศาสตร์โบราณ เป็นปราชญ์แห่งยุค เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ พวกพี่ชายแย่งราชสมบัติกัน ท่านจึงเกิดความเบื่อหน่าย จึงไปศึกษาแสวงธรรมอยู่กับ พระปรัชญาตาระเถระ ผู้เป็นสังฆปริณายกองค์ที่ ๒๗ แห่งนิกายเซน พระปรัชญาตาระได้หยิบลูกแก้วยกขึ้นให้ท่านโพธิธรรมดูเป็นปริศนา ท่านก็บังเกิดความรู้แจ้งในธรรมจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ พระปรัชญาตาระเถระได้เรียกประชุมคณะสงฆ์และประกาศมอบบาตร จีวร สังฆาฏิ และถ่ายทอดธรรมทั้งหมดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ท่านโพธิธรรมเป็นพระสังฆปริณายกองค์ที่ ๒๘ พร้อมทั้งสั่งให้ท่านโพธิธรรมนำวิถีธรรมของพระพุทธเจ้าเผยแผ่สู่ประเทศจีน เมื่อท่านโพธิธรรมได้จาริกมาสู่ประเทศจีน และ

พยากรณ์อากาศเพื่อการเกษตร 26 มิถุนายน 2558 - 02 กรกฎาคม 2558

Image
ภาคเหนือ        ในช่วงวันที่ 26-28 มิ.ย. ฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค ส่วนในช่วงวันที่ 29 มิ.ย. – 2 ก.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. - สำหรับพื้นที่ซึ่งมีฝนตก เกษตรกรควรกักเก็บน้ำเอาไว้ และควรใช้น้ำที่เก็บกักไว้อย่างประหยัด เพื่อจะได้มีน้ำใช้ในช่วงที่มีฝนตกน้อย - ส่วนไม้ผลที่อยู่ในระยะผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยว เกษตรกรควรระวังและป้องกันสัตว์ศัตรูพืชต่างๆ เช่น ค้างคาว กระรอก และผีเสื้อมวนหวาน เป็นต้น ซึ่งจะกัดกิน และดูดน้ำหวานจากผลทำให้ผลเน่าเสียและร่วงหล่น ผลผลิตด้อยคุณภาพ - เนื่องจากหลังจากฝนทิ้งช่วงผ่านไปแล้วปริมาณและการกระจายของฝนจะเพิ่มขึ้น ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรซ่อมแซมโรงเรือนให้มีความมั่นคงแข็งแรง หลังคาไม่รั่วซึม เพื่อป้องกันสัตว์เปียกชื้นจนอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่ายในช่วงที่มีฝนตกชุก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ        ในช่วงวันที่ 26-29 มิ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอน

ทุเรียนบ้านปักษ์ใต้ เนื้อน้อย แต่หรอยอย่างแรง

Image
ยังมีอยู่ ‘ทุเรียนบ้าน’ ผลไม้ดั้งเดิมของสวนทางภาคใต้ แม้เนื้อจะน้อย แต่รสชาติอร่อยล้ำ เจ้าของสวนต้องไปสร้างขนำนอนเฝ้า เพื่อจะเก็บลูกที่หล่นจากต้นมาขาย ปีนี้ที่กระบี่ออกแล้ว เผยยังสวนเหลืออยู่ใน 2 ตำบลเท่านั้น... ขณะนี้ ‘ทุเรียนบ้าน’ ในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว โดยพบว่าปีนี้ทุเรียนบ้าน ออกช้ากว่าปกติไปประมาณ 1 เดือน จากการสอบถามทราบว่า น่าจะมาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้งภาวะความแห้งแล้ง ฝนทิ้งช่วง ขณะที่ปริมาณทุเรียนที่ออกสู่ตลาด พบว่ามีจำนวนไม่มาก ทำให้ราคาทุเรียนบ้านที่ออกในช่วงนี้ราคาสูง ขายปลีกกก.60 บาท ซึ่งถือว่าดีมาก โดยแม่ค้าเริ่มนำทุเรียนออกมาตั้งตามแผงบริเวณริมถนนเพชรเกษมกันแล้ว นางวาสนา พรหมรักษา แม่ค้าขายทุเรียนบอกว่า ปีนี้ทุเรียนบ้านเริ่มร่วงแล้ว ชาวสวนจึงไปแผ้วถางในสวนทุเรียน แล้วสร้างขนำไว้เพื่อเฝ้าทุเรียนที่ร่วงในช่วงกลางคืน พอตอนเช้าก็เก็บมาขายตามริมถนน หากใครไม่ต้องการขายเอง ก็ขายให้กับแผงได้ โดยราคารับซื้อขณะนี้อยู่ที่ 35 บาทต่อกก ส่วนราคาขายปลีกอยู่ที่ 60 บาทต่อกก. ซึ่งถือว่าราคาดีมาก แต่หลังจากนี้อีกประมาณ 1 เดือน ทุเรียนบ้านจะออกมามาก ราคา

ทางออกถั่วเหลืองไทยยุคเออีซี

Image
ถั่วเหลืองนับเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาด้านการผลิตที่ไม่เพียงต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการของกลุ่มโรงงานผลิตน้ำมันถั่วเหลือง โรงงานผลิตอาหารสัตว์ รวมถึงโรงงานผลิตนมถั่วเหลือง ทำให้ไทยต้องนำเข้าถั่วเหลืองปีละกว่า 2  ล้านตัน มีมูลค่าร่วมกับกากถั่วเหลืองด้วยถึง 6.7 หมื่นล้านบาท หากย้อนถึงอดีต ประเทศไทยมีพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองสูงสุดในปี 2532 คือ 3.01 ล้านไร่ ผลผลิต 625,278 ตัน เพียง 20 ปีให้หลัง จากข้อมูลระบุว่า ฤดูการเพาะปลูกถั่วเหลืองปี 2552/2553 ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองเหลือเพียง 0.80 ล้านไร่ ได้ผลผลิต 204,581 ตัน ล่าสุดไทยมีพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองไม่ถึง 1 แสนไร่ ได้ผลผลิตไม่ถึง 2 แสนตัน แม้ที่ผ่านมารัฐบาลจะมีการกำหนดยุทธศาสตร์ถั่วเหลืองขึ้นมา โดยมีระยะเวลาดำเนินตั้งปี 2553-2556 แต่สภาพความเป็นจริงสิ้นโครงการการปลูกถั่วเหลืองภายในประเทศมีผลผลิตปีละไม่ถึง 1 แสนตัน ขณะที่ความต้องการมีกว่า 2 ล้าน ทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2556 ให้เปิดตลาดเสรีนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (

ปาล์มไผ่ : ไม้ประดับ ที่ดูดสารพิษได้

Image
ปาล์มไผ่ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chamaedorea seifrizii เป็นไม้ประดับที่จัดอยู่ในวงศ์ PALMAE ต้นกำเนิดอยู่ทีประเทศเม็กซิโกและอเมริกาใต้ ลำต้นจะมีลักษณะคล้ายปาล์มใบไผ่ (Bamboo Palm) แต่จะมีขนาดใหญ่กว่านิดหน่อย ลำต้นมีสีเขียวขนาดเล็กเป็นข้อปล้องเห็นได้ชัด ดูคล้ายต้นไผ่ แต่จะสูงเพียง 1.5-2 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว เรียวแหลม สีเขียวมัน ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ แผ่ออกดูอ่อนช้อย มีความสามารถในการดูดซับสารพิษจากอากาศเหมือนกันกับปาล์มใบไผ่ แต่จะดูดได้น้อยกว่า แต่ถึงอย่างไรก็จัดเป็นไม้ประดับที่มีความสวยงาม และได้รับความนิยมนำมาปลูกประดับภายในบ้านเรือนหรืออาคารสำนักงานต่างๆไม่แพ้กัน การปลูกการดูแลปาล์มไผ่ ปาล์มไผ่เป็นปาล์มที่มีหน่อและแตกเป็นกอ นิยมขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อหรือเพาะเมล็ด เป็นไม้ประดับที่ไม่ต้องการแสงแดดมากแต่ต้องการน้ำพอสมควร โดยเฉพาะในระยะกำลังเจริญเติบโต สามารถปลูกได้ในที่ร่มรำไร ถ้าปลูกในห้องหรือภายในอาคารสำนักงานควรรดน้ำวันละครั้ง ในการปลูกให้ใช้ดิน 2 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน เศษใบไม้ผุ 1 ส่วนผสมให้เข้ากันรองกระถางหรือหลุมปลูก ความสามารถพิเศษในการดูดซับสารพ

เล็บมือนาง : เป็นยาถ่ายพยาธิ

Image
ชื่อวิทยาศาสตร์ :    Quisqualis indica  L. ชื่อสามัญ :   Drunen sailor, Rangoon ceeper วงศ์ :   COMBRETACEAE ชื่ออื่น :  จะมั่ง จ๊ามั่ง (ภาคเหนือ) ไท้หม่อง (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) อะดอนิ่ง (มลายู-ยะลา) ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :  ไม้พุ่มเลื้อยที่เติบโตเร็ว ส่วนที่อ่อนมีขนสั้นหนานุ่ม สีสนิม ใบเดี่ยวติดตรงข้าม หรือบางส่วนสลับ หรือเวียนสลับเป็นวงรอบ ใบรูปหอกขอบขนานหรือรูปรี ขนาดกว้าง 5-18.5 ซม. ยาว 2.5-9 ซม. ปลายใบเรียวแหลม โคนใบกลมหรือค่อนข้างรูปหัว ดอกมีกลิ่นหอมออกเป็นช่อที่ยอดและตามซอกใบห้อยย้อยลงมา กลีบเลี้ยงเป็นหลอดมีสีเขียวปลายแฉกสามเหลี่ยมสั้นๆ กลีบดอกรูปขอบขนาน ขนาด 10-20 x 3-6 มม. ดอกเริ่มบาน สีขาวเปลี่ยนเป็นสีชมพูจนถึงแดงเข้ม ผลทรงรีแคบๆ 5 พู ยาวประมาณ 2.5 ซม. สีน้ำตาลแดงเป็นมัน ส่วนที่ใช้ : ใบ  ต้น  ราก เมล็ดในของผลเล็บมือนางที่แก่แห้ง สรรพคุณ : ใบ -   ตำชโลม หรือทาแผล ทาฝี -   แก้ปวดศีรษะ แก้ไข้ ต้น - ใช้เป็นยาแก้ไอ ราก - ใช้ถ่ายพยาธิ รักษาตานซาง เมล็ด - ใช้เป็นยาขับพยาธิตัวกลม, พยาธิเส้นด้ายในเด็ก วิธีและปริมาณที่ใช้ :           ใช้เมล็ดในของผลเล็บมือนาง

พีระมิดบนดาวอังคาร : นาซ่าจับภาพ ลือเป็นอารยธรรมโบราณ!

Image
นาซ่า'จับภาพซากวัตถุคล้ายพีระมิดบนดาวอังคาร ผู้ศึกษามนุษย์ต่างดาวคาดอาจเป็นหลักฐานของอารยธรรมโบราณ กลายเป็นเรื่องราวที่ฮือฮาอย่างมากตามสื่อต่างประเทศ เมื่อองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือ'นาซ่า' (NASA) จับภาพถ่ายจากบนดาวอังคาร พบวัตถุประหลาดคล้ายพีระมิดขนาดเท่ารถยนต์ปรากฏอยู่บนพื้นผิวของดวงดาว ทำเอาผู้ศึกษาเรื่องมนุษย์ต่างดาวฮือฮาพร้อมออกมาชี้ว่า "อาจเป็นร่องรอยของอารยธรรมโบราณ" ผู้ศึกษาเรื่องมนุษย์ต่างดาวชี้ว่าอาจเกี่ยวโยงกับทฤษฎีสมคบคิดที่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมีจริงซึ่งทางนาซ่าเองก็ทราบเรื่องนี้ดี แต่ยังคงปกปิดเนื่องจากเกรงว่าอาจจะสร้างความแตกตื่น อย่างไรก็ตาม มีนักวิจารย์บางกลุ่มมองว่า อาจเป็นหินที่ถูกกระแสลมกัดเซาะ แต่ด้านผู้ศึกษาเรื่องนี้ก็ยืนยันว่า หินดังกล่าว มีรูปทรงเป็นพีระมิดสมบูรณ์แบบ ซึ่งต้องเกิดจากการออกแบบ ไม่ใช่ภาพหลอกตา หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ข้อมูลจาก posttoday.com

ไม้ประดับลดโรค ในงานเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับ

Image
การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าไม้ประดับลดมลพิษใน เทศกาลไม้ดอกไม้ประดับและปลาสวยงาม ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล นายไพรัช หวังดี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ไม้ดอกไม้ประดับ นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังมีประโยชน์ในการบำบัดรักษาโรค บางชนิดสามารถกำจัดสารพิษหรือมลพิษในอากาศได้ เช่น “บอสตันเฟิน” สามารถดูดสารพิษโดยเฉพาะจำพวกฟอร์มาลดีไฮด์ และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ภายในอาคารเป็นอย่างดี “กล้วยไม้” ทุกสกุลจะคายก๊าซออกซิเจนและดูดก๊าซคาร์บอนได ออกไซด์เวลากลางคืน สามารถดูดสารระเหย สารเคมีพวกแอลกอฮอล์ อะซีโทน ฟอร์มาลดี ไฮด์ และคลอโรฟอร์มจากอากาศได้ดี “ลิ้นมังกร” จะคายก๊าซออกซิเจนและดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เวลากลางคืน จึงเหมาะสมจะนำมาตั้งไว้ในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น “พลูด่าง” เป็นไม้ที่มีความทนทานและอยู่ในที่แสงสว่างน้อยได้ มีประสิทธิภาพในการขจัดไอระเหยเบนซิน “หมากเหลือง” ลักษณะเป็นกอแตกหน่อ ไม่ต้องการน้ำและแดดมาก เป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกประดับบริเวณบ้านเรือนหรือนอกอาคาร คายความชื้นให้แก่อากาศในห้องเป็นจำนวนมาก สามารถดูดสารพิษหลายชนิดและป้องกันฝุ่นละออง “โกสน” เป็นไม้ประดั

พด. เร่งส่งเสริมความรู้การฟื้นฟูดิน ลดการใช้สารเคมี

Image
ปัจจุบันเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่ตระหนักและหันมาให้ความสนใจกับการผลิตปุ๋ยอินทรีย์มากขึ้น ทั้งนี้ ก็เพื่อหลีกหนีจากต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะด้านปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพงขึ้นจนรับไม่ไหว จนต้องหันมาพึ่งพาปุ๋ยอินทรีย์ที่สามารถผลิตได้เองจากวัสดุเหลือใช้ทางภาคเกษตรที่มีอยู่จำนวนมาก นายสมโสถติ์ ดำเนินงาม ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาการจัดการที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดินเป็นหน่วยงานหลักที่มีภารกิจด้านการพัฒนาและจัดการที่ดิน การฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน ตลอดจนด้านการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์/สารอินทรีย์เพื่อลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร โดยเฉพาะในยุคที่ปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทบต่อต้นทุนการผลิตของเกษตรกร กรพัฒนาที่ดิน จึงได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้สารอินทรีย์เพื่อลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร มุ่งเน้นให้เกษตรกรผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ลดการพึ่งพาสารเคมีทางการเกษตรให้ใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อลดต้นทุนการผลิต และได้ปรับปรุงฟื้นฟูคืนความสมบูรณ์ให้กับทรัพยากรดิน เกษตรกรจะได้มีที่ดินทำกินอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการมาตั้งแต