ฆ่าเพลี้ยแป้งทุเรียน เพลี้ยแป้งจะดูดกินน้ำเลี้ยง จากช่อกิ่ง ช่อดอก ผลอ่อนทุเรียน และผลแก่ และจะขับน้ำหวานออกมา ราดำจะเข้าเกาะซ้ำ ทำให้ทุเรียนโตช้า คุณภาพไม่ดี
โดยรูปร่างของเพลี้ยแป้งทุเรียนเพศเมีย (Planococcus minor (Maskell) และ Planococcus lilacinus (Copckerell) มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 3.0 มิลลิเมตร มีสีเหลืองอ่อนหรือชมพู ตัวอ้วนสั้น ผลสีขาวคล้ายผงแป้งปกคลุมลำตัว วางไข่เป็นกลุ่มๆ ละ 100-200 ฟอง เพศเมียตัวหนึ่งสามารถวางไข่ได้ 600-800 ฟอง ภายในเวลา 14 วันไข่จะฟักอยู่ในถุงใต้ท้อง ระยะไข่ประมาณ 6-10 วัน เพศเมียเมื่อวางไข่หมดแล้วจะตายไป เพลี้ยแป้งเพศเมียลอกคราบ 3 ครั้ง และไม่มีปีก ส่วนเพศผู้ลอกคราบ 4 ครั้ง มีปีกและมีขนาดเล็กกว่าเพศเมีย เพลี้ยแป้งสามารถขยายพันธุ์ได้ 2-3 รุ่น ใน 1 ปี
ลักษณะการทำลาย เพลี้ยแป้งจะดูดกินน้ำเลี้ยงจากบริเวณกิ่ง ช่อดอก ผลอ่อน ผลแก่ โดยมีมดดำเป็นตัวคาบพาไปยังส่วนต่างๆ ของพืช นอกจากนี้เพลี้ยแป้งจะขับน้ำหวาน (honey dew) ออกมาเป็นสาเหตุให้ราดำที่มีอยู่ในธรรมชาติเข้าทำลายซ้ำ หากพบเพลี้ยแป้งเข้าทำลายทุเรียนในระยะผลเล็กจะทำให้ผลแคระแกร็น ไม่เจริญเติบโต แต่ถ้าเป็นผลใหญ่ทำให้คุณภาพผลทุเรียนลดลงและไม่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค
แนะนำให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้งทุเรียน โดยหมั่นสำรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบเพลี้ยแป้งระบาดเล็กน้อย เช่น บนกิ่ง ให้ตัดส่วนที่ถูกทำลายทิ้งไป หากพบบนผลทุเรียนในปริมาณน้อยอาจใช้แปลงปัด ใช้ มาคา สารอินทรีย์ ป้องกันและกำจัดเพลี้ยแมลงศัตรูพืช ผสมในอัตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณที่มีการระบาด พ่นซ้ำทุก 7 วัน ต่อเนื่อง 2-4 ครั้ง และสังเกตุว่ายังพบการระบาดอยู่หรือไม่ เกษตรกรชาวสวนทุเรียน สามารถ ผสม FK-1 ฉีดพ่นไปพร้อมกับ มาคา เพื่อช่วยให้ทุเรียนฟื้นฟูจากการเข้าทำลายของเพลี้ยแป้งได้รวดเร็วยิ่งขึ้น กลับมาเจริญเติบโต และมีความสมบูรณ์แข็งแรงได้อีกครั้ง
สั่งซื้อสินค้าได้ที่ http://www.farmkaset.org/html5/customer_update_add_self.aspx
โทร 090-592-8614
ไลน์ไอดี FarmKaset
Comments
Post a Comment