การป้องกันและกำจัด โรคข้าวโพด ข้าวโพดใบไหม้ โรคราสนิมข้าวโพด โรคราน้ำค้าง โรคข้าวโพดใบด่าง
โรคข้าวโพดใบไหม้แผลเล็ก (Southern Corn Maydis Leaf Blight)
ลักษณะอาการ
ระยะแรกจะเกิดจุดเล็ก ๆ สีเขียวอ่อนฉ่ำน้ำ ต่อมาจุดจะขยายออกตามความยาวของใบ โดยจำกัดด้านกว้างของแผลขนานไปตามเส้นใบตรงกลาง แผลจะมีสีเทา ขอบแผลมีสีเทาน้ำตาล ขนาดของแผลไม่แน่นอน แผลที่ขยายใหญ่เต็มที่มีขนาดกว้าง 6-12 มิลลิเมตร และยาว 6-27 มิลลิเมตร ในกรณีที่ใบข้าวโพดเป็นโรครุนแรง แผลจะขยายตัวรวมกันเป็นแผลใหญ่ และทำให้ใบแห้งตายในที่สุด อาการของโรคเมื่อเกิดในต้นระยะกล้าจะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ทุกใบอาจจะเหี่ยวและแห้งตายภายใน 3-4 สัปดาห์หลังปลูก แต่ถ้าเกิดกับต้นแก่อาการจะเกิดบนใบล่าง ๆ ก่อน นอกจากจะเกิดบนใบแล้วยังเกิดกับต้นกาบใบ ฝักและเมล็ดอีกด้วย
เชื้อสาเหตุ
เกิดจากเชื้อรา Bipolaris maydis (Nisik.) Shoemaker. มีชื่อเดิมว่า Helminthosporium maydisNisik. เข้าทำลายข้าวโพดในเขตอบอุ่นและร้อนชื้น เชื้อมีสปอร์ยาวโค้ง ปลายเรียวมน ไม่มี hilum สีเขียวมะกอก การงอก germ tube ออกทางปลายทั้งสองด้าน เมื่อนำใบข้าวโพดเป็นโรคมาบ่มที่ความชื้น ในอุณหภูมิห้องจะสร้างสปอร์ในเวลา 24-48ชม. ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญของเชื้อจะสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ รูปร่างกลม สีดำมีส่วนปากค่อนข้างแหลมยื่นออกมาขนาด 0.4-0.6 มม.
การแพร่ระบาด
เชื้อโรคสามารถระบาดจากต้นหนึ่งไปสู่อีกต้นหนึ่ง หรือจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง โดยติดไปกับเมล็ดที่เป็นโรคและโดยทางลม หรือฝนนำสปอร์ปลิวไป เมื่อเข้าทำลายพืชเป็นแผลบนใบสามารถสร้างสปอร์อีกมากมายแพร่กระจายในแหล่งปลูก วงจรของโรคเริ่มจากเข้าทำลายจนสร้างสปอร์ใหม่ ภายในเวลา 60-72ชั่วโมง ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ที่ความชื้นสูง อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 20-320 เซลเซียส เชื้อราสามารถเข้าทำลายข้าวโพดได้หลายครั้งในแต่ละฤดูจากสปอร์ใหม่ที่เกิดขึ้น แพร่กระจายไปกับลมและฝน แล้วเข้าทำลายข้าวโพดอีกหลายรอบ เชื้อราสามารถมีชีวิตได้ในใบข้าวโพดนานถึง 8 เดือนและมีชีวิตในเมล็ดข้าวโพดได้นานกว่า 1 ปี นอกจากนี้ยังพบว่าหญ้าเดือยเป็นพืชอาศัยของเชื้อราชนิดนี้
การป้องกันกำจัด
1. ใช้เมล็ดพันธุ์จากต้นที่สมบูรณ์ปราศจากโรค
2. หมั่นตรวจไร่อยู่เสมอตั้งแต่ระยะกล้าเมื่อพบโรคเริ่มระบาดให้ถอนแล้วเผาทำลายจากนั้น ฉีดพ่นด้วย ไอเอส ในอัตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ให้ทั่วแปลงที่มีการระบาด ฉีดพ่นซ้ำทุก 3-7 วัน ต่อเนื่อง 2-4 ครั้ง ตามความรุนแรงของการระบาด การส่งเสริมให้พืชฟื้นตัวเร็วจากการเข้าทำลายของโรคและแมลง สามารถผสม FK-1 ที่ประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ฉีดพ่นไปด้วยพร้อมกัน
3. ทำลายพืชอาศัยของโรค เช่น หญ้าเดือย (Rottboellia exaltata)
4. ทำลายเศษซากของข้าวโพดหลังเก็บเกี่ยวเพราะจากการศึกษา พบว่า เชื้อราสามารถอยู่ข้ามฤดูบนเศษซากของข้าวโพดได้
5. ปลูกพันธุ์ต้านทานต่อโรค เช่น นครสวรรค์ 1 นครสวรรค์ 72 สุวรรณ 1 สุวรรณ2
โรคใบไหม้แผลใหญ่ (Northern Corn Leaf Blight)
เชื้อสาเหตุ : เชื้อรา Exserohilum turcicumการป้องกันกำจัด :
1. ปลูกพืชหมุนเวียน เผาทำลายเศษซากพืชเป็นโรค
2. การเขตกรรมที่เหมาะสม ไม่ปลูกพืชหนาแน่นและใส่ปุ๋ยไนโตรเจนปริมาณสูง
3. ใช้พันธุ์ต้านทานต่อโรค
4. หมั่นตรวจสอบไร่อยู่เสมอ เมื่อพบโรคให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช ฉีดพ่นด้วย ไอเอส ในอัตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ให้ทั่วแปลงที่มีการระบาด ฉีดพ่นซ้ำทุก 3-7 วัน ต่อเนื่อง 2-4 ครั้ง ตามความรุนแรงของการระบาด
โรคราสนิมข้าวโพด (Rust)
เชื้อสาเหตุ : เชื้อรา Puccinia polysoraการแพร่ระบาด : ระบาดได้ทุกฤดูแต่พบระบาดในช่วงฤดูฝนมากกว่าฤดูอื่น ๆ เชื้อราจากจุดนูนที่แตกเป็นผงฝุ่นขึ้นรอบ ๆ สามารถแพร่ระบาดโดยลม
การป้องกันกำจัด :
1. ใช้พันธุ์ต้านทาน
2. ควรหลีกเลี่ยงการปลูกในฤดูที่มีการแพร่ระบาดของโรคอย่างรุนแรง
3. หมั่นสำรวจแปลงปลูกข้าวโพด หากพบจุดนูนของโรคราสนิม 1-2 % ของพื้นที่ใบให้ เนื่องจากเป็นโรคที่มีสาเหตุจากเชื้อรา ฉีดพ่นด้วย ไอเอส ได้เช่นกัน
โรคราน้ำค้างข้าวโพด (Downy Mildew)
เชื้อสาเหตุ : เชื้อรา Peronosclerospora sorghiการป้องกันกำจัด :
1. ใช้พันธุ์ต้านทาน
2. ควรหลีกเลี่ยงการปลูกในฤดูที่มีการระบาดของโรคอย่างรุนแรง
3. ฉีดพ่นด้วย ไอเอส ในอัตราส่วน 50ซีซี ต่อน้ำ 20ลิตร ให้ทั่วแปลงที่มีการระบาด ฉีดพ่นซ้ำทุก 3-7 วัน ต่อเนื่อง 2-4 ครั้ง ตามความรุนแรงของการระบาด
4. หมั่นตรวจไร่ตั้งแต่เริ่มปลูก ถ้าพบข้าวโพดเริมแสดงอาการของโรคให้ถอนและเผาทำลายทันที
โรคข้าวโพดโคนเน่า (Bacterial Stalk Rot)
เชื้อสาเหตุ : เชื้อแบคทีเรีย Erwinia chrysanthimiการป้องกันกำจัด :
1. หลีกเลี่ยงการปลูกข้าวโพดในแหล่งที่เคยมีโรคระบาด
2. ถอนแล้วเผาทำลายต้นที่เป็นโรคทันทีที่พบเห็น และใส่ปูนขาวบริเวณที่พบโรค
3. ปลูกข้าวโพดพันธุ์ต้านทานโรค
4. ควรปลูกข้าวโพดบริเวณที่มีการระบายน้ำได้ดี น้ำไม่ท่วมขัง หลีกเลี่ยงการปลูกพืชหนาแน่นและการให้ปุ๋ยไนโตรเจนปริมาณสูง เพิ่มอินทรีย์วัตถุสูงกว่า 1.5 % เพื่อปรับให้มีการแข่งขันของจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ต่อเชื้อโรค
5. ปลูกพืชหมุนเวียนในแหล่งที่เคยมีโรคระบาด
โรคข้าวโพดใบด่าง (Maize Dwarf Mosaic Virus)
เชื้อสาเหตุ : ไวรัสการป้องกันกำจัด :
1. กำจัดเพลี้ยอ่อน ซึ่งเป็นตัวแมลงพาหะนำโรค ฉีดพ่น มาคา สารอินทรีย์ป้องกันและกำจัดเพลี้ย 2-3 ครั้ง ระยะห่างต่อครั้งประมาณ 7 วัน ส่งเสริมให้พืชฟื้นตัวเร็วจากการเข้าทำลายของโรคและแมลง ผสม FK-1 ที่ประกอบด้วย ธาตุหลัก ธาตุรอง ธาตุเสริม ฉีดพ่นไปด้วยพร้อมกัน เพื่อให้พืชกลับมาเจริญเติบโต สมบูรณ์แข็งแรงได้เร็วยิ่งขึ้น
2. ปลูกข้าวโพดพันธุ์ต้านทาน ปลูกพืชหมุนเวียน
3. หลีกเลี่ยงการปลูกข้าวโพดในช่วงที่มีการระบาดของแมลงพาหะ
สั่งซื้อสินค้าได้ที่ http://www.farmkaset.org/html5/customer_update_add_self.aspx
ไลน์ไอดี FarmKaset
โทร 090-592-8614
สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช
kubotasolutions.com
Comments
Post a Comment