ดินที่เหมาะสมกับหน่อไม้ฝรั่ง


ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกหน่อไม้ฝรั่งควรเป็นดินร่วนปนทรายที่มีอินทรียวัตถุสูง

โครงการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ของศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพง หมู่ 8 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 7 เกิดขึ้นด้วยดำริของ พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ที่ให้ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพง ดำเนินการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ในพื้นที่บริเวณศูนย์สาธิตฯ เนื้อที่ 3 ไร่ จำนวน 6,000 ต้น โดยใช้ระบบน้ำหยด เพื่อเป็นแปลงสาธิตให้กับเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่

และเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาแล้วนำไปปฏิบัติใช้ในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งศูนย์สาธิตฯ หุบกะพง ได้ดำเนินการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง พันธุ์หน่อขาว ในพื้นที่ 1.5 ไร่ ในรูปแบบที่ถูกหลักวิชาการ นับตั้งแต่การเตรียมต้นพันธุ์ การเตรียมดิน และการปลูกตลอดถึงการบำรุงรักษาและเก็บเกี่ยว

โดยเฉพาะการปลูกในช่วงแล้ง เช่นเดือนเมษายน หรือต้นฤดูฝน จะให้น้ำโดยใช้ระบบสปริงเกลอร์สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชื้นของดินที่ปลูก มีการกำจัดวัชพืชภายในแปลง โดยถอนต้นที่แก่และแห้งเฉาทิ้ง แล้วปล่อยหน่อให้โต เพื่อทดแทนต้นเก่าที่ถอนทิ้งไปให้คงเหลือต้นหลักไว้ประมาณ 4-5 ต้น ใช้วิธีพรวนดินข้างโคนต้น เพื่อให้หน่อที่ขึ้นมาใหม่ไม่บิดงอ ควบคู่กับการกำจัดต้นแห้วหมูในแปลง ใส่ปุ๋ยหมักในร่องแปลงเพื่อบำรุงดินและเป็นอาหารของหน่อไม้ฝรั่ง

และจากการปลูกในแปลงสาธิตแห่งนี้พบว่า หน่อไม้ฝรั่งสามารถเจริญเติบโตได้ในดินเกือบทุกชนิด แต่ดินที่เหมาะสมแก่การปลูกควรมีหน้าดินลึก เป็นดินที่เก็บความชื้นได้ดีพอสมควร สามารถระบายน้ำและถ่ายเทอากาศได้ดี ไม่ขัดขวางการเจริญเติบโตของหน่ออ่อนและการไชชอนของราก เช่น ดินทราย ดินร่วน หรือดินร่วนเหนียว


และพบด้วยว่าโครงการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ของศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพง หมู่ 8 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี 7 เกิดขึ้นด้วยดำริของ พลอากาศเอก กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ที่ให้ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพง ดำเนินการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ในพื้นที่บริเวณศูนย์สาธิตฯ เนื้อที่ 3 ไร่ จำนวน 6,000 ต้น โดยใช้ระบบน้ำหยด เพื่อเป็นแปลงสาธิตให้กับเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ใน พื้นที่

และเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาแล้วนำไปปฏิบัติใช้ในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งศูนย์สาธิตฯ หุบกะพง ได้ดำเนินการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง พันธุ์หน่อขาว ในพื้นที่ 1.5 ไร่ ในรูปแบบที่ถูกหลักวิชาการ นับตั้งแต่การเตรียมต้นพันธ์ุ การเตรียมดิน และการปลูกตลอดถึงการบำรุงรักษาและเก็บเกี่ยว

โดยเฉพาะการปลูกในช่วงแล้ง เช่นเดือนเมษายน หรือต้นฤดูฝน จะให้น้ำโดยใช้ระบบสปริงเกลอร์สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชื้นของดินที่ปลูก มีการกำจัดวัชพืชภายในแปลง โดยถอนต้นที่แก่และแห้งเฉาทิ้ง แล้วปล่อยหน่อให้โต เพื่อทดแทนต้นเก่าที่ถอนทิ้งไปให้คงเหลือต้นหลักไว้ประมาณ 4-5 ต้น ใช้วิธีพรวนดินข้างโคนต้น เพื่อให้หน่อที่ขึ้นมาใหม่ไม่บิดงอ ควบคู่กับการกำจัดต้นแห้วหมูในแปลง ใส่ปุ๋ยหมักในร่องแปลงเพื่อบำรุงดินและเป็นอาหารของหน่อไม้ฝรั่ง

และจากการปลูกในแปลงสาธิตแห่งนี้พบว่า หน่อไม้ฝรั่งสามารถเจริญเติบโตได้ในดินเกือบทุกชนิด แต่ดินที่เหมาะสมแก่การปลูกควรมีหน้าดินลึก เป็นดินที่เก็บความชื้นได้ดีพอสมควร สามารถระบายน้ำและถ่ายเทอากาศได้ดี ไม่ขัดขวางการเจริญเติบโตของหน่ออ่อนและการไชชอนของราก เช่น ดินทราย ดินร่วน หรือดินร่วนเหนียว

และพบด้วยว่าดินทรายจัดและดินปนกรวดไม่เหมาะแก่การปลูกหน่อไม้ฝรั่ง เนื่องจากดินทรายจัดเก็บความชื้นได้น้อย ส่วนดินปนกรวดจะทำให้หน่อโค้งงอ ส่วนดินเหนียวจัดไม่เหมาะแก่การปลูกหน่อไม้ฝรั่งเช่นกัน เนื่องจากมีการระบายน้ำและถ่ายเทอากาศไม่ดี อาจมีน้ำขังแฉะและทำให้การแทงหน่อไม่ค่อยดีนัก

ดังนั้นดินที่เหมาะสมต่อการปลูกหน่อไม้ฝรั่งควรเป็นดินร่วนปนทรายที่มีอินทรียวัตถุสูง ส่วนการปลูกเพื่อผลิตหน่อขาวจำเป็นต้องใส่ อินทรียวัตถุและปุ๋ยหมัก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ลุ่มของภาคกลาง เช่นในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีการปลูกกันมากในช่วงระหลังนี้ ได้รับคำแนะนำว่า จำเป็นต้องปลูกหน่อไม้ฝรั่งในแปลงผักแบบยกร่อง ขนาดความกว้างของแปลงประมาณ 4-5 เมตร ความกว้างของร่องน้ำประมาณ 1 เมตร

สำหรับพื้นที่ดินเหนียวหนักสีดำ ก็สามารถปลูกหน่อไม้ฝรั่งเพื่อทำหน่อเขียวได้ โดยใส่อินทรียวัตถุรอบ ๆ โคนต้นเพื่อปรับปรุง ดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของหน่อไม้ฝรั่ง และเติมอินทรียวัตถุทุก ๆ เดือนก็จะทำให้ได้ผลผลิตที่ดีตามที่ต้องการของตลาด. ส่วนดินปนกรวดจะทำให้หน่อโค้งงอ ส่วนดินเหนียวจัดไม่เหมาะแก่การปลูกหน่อไม้ฝรั่งเช่นกัน เนื่องจากมีการระบายน้ำและถ่ายเทอากาศไม่ดี อาจมีน้ำขังแฉะและทำให้การแทงหน่อไม่ค่อยดีนัก

ดังนั้นดินที่เหมาะสมต่อการปลูกหน่อไม้ฝรั่งควรเป็นดินร่วนปนทรายที่มีอินทรียวัตถุสูง ส่วนการปลูกเพื่อผลิตหน่อขาวจำเป็นต้องใส่ อินทรียวัตถุและปุ๋ยหมัก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ลุ่มของภาคกลาง เช่นในอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีการปลูกกันมากในช่วงระหลังนี้ ได้รับคำแนะนำว่า จำเป็นต้องปลูกหน่อไม้ฝรั่งในแปลงผักแบบยกร่อง ขนาดความกว้างของแปลงประมาณ 4-5 เมตร ความกว้างของร่องน้ำประมาณ 1 เมตร

สำหรับพื้นที่ดินเหนียวหนักสีดำ ก็สามารถปลูกหน่อไม้ฝรั่งเพื่อทำหน่อเขียวได้ โดยใส่อินทรียวัตถุรอบ ๆ โคนต้นเพื่อปรับปรุง ดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของหน่อไม้ฝรั่ง และเติมอินทรียวัตถุทุก ๆ เดือนก็จะทำให้ได้ผลผลิตที่ดีตามที่ต้องการของตลาด.

จาก dailynews.co.th

http://www.farmkaset.org/html5/contents.aspx?con_id=02211

Popular posts from this blog

โรคของพืชตระกูลมะเขือ มะเขือใบเหลือง มะเขือใบไหม้ มะเขือใบแห้ง ใบด่าง โรคมะเขือจากเชื้อรา และการป้องกันกำจัด

โรคมะพร้าวยอดเน่า โรคใบจุดมะพร้าว โรคมะพร้าวต่างๆ ที่มีต้นเหตุจากเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส

แก้โรค ทุเรียนกิ่งแห้ง ทุเรียนยอดแห้ง ทุเรียนก้านธูป ด้วยการฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ป้องก้นและยับยั้งเชื้อรา