ทำแบบนี้แล้ว จะปลูกมันสำปะหลัง ได้กี่ตันต่อไร่?


ประโยคนี้กลายเป็นคำถามยอดฮิตไปแล้ว หลังจากที่ฟังวิดิโอบรรยายการปลูกมันสำปะหลังของปริมจบ...

ประเทศไทยปลูกมันสำปะหลังทั้งหมด 8,975,865 ไร่ และผลผลิตเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 3.56 ตันต่อไร่ ดังนั้นถ้าเราปลูกมันสำปะหลังแล้วได้ 3.6 ตันต่อไร่ก็ถือว่าปกติ แต่ถ้าได้ผลผลิตน้อยกว่านี้ แสดงว่าเราปลูกมันได้น้อยกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ คนที่ปลูกได้ 5 ตันต่อไร่ หรือ 10 ตันต่อไร่..แสดงว่าเขาเก่งและศึกษามาเยอะ ..เรียนรู้มามาก...

แต่สำหรับปริมแล้ว..ผลผลิตจะมากหรือน้อย..ไม่สำคัญ..แต่มันสำคัญที่.ทำแล้วคุ้มหรือเปล่า..ทำแล้วได้กำไรเท่าไหร่..ก่อนที่จะมองว่าอยากทำมันสำปะหลังให้ได้ 10 ตัน หรือหนักเข้าก็บอกว่าได้ 30 ตันต่อไร่ ต้องถามตัวเองก่อนว่า..มีทุนเท่าไหร่..การถามว่ามีทุนเท่าไหร่.. มันคือการเริ่มต้นจากตัวเอง..ไม่ได้เริ่มต้นจากคำบอกเล่าของผู้อื่น..

ทำอย่างไรที่จะควบคุมต้นทุนการผลิตให้คุ้มกับผลตอบแทนที่ได้รับเป็นสิ่งสำคัญ..โดยเฉพาะไร่ใหญ่ๆ..หรือเกษตรกรที่ทำเป็นร้อยๆ ไร่ เพราะแค่เริ่มต้นทำ..ก็เป็นการลงทุนที่มากมายแล้ว..อยากได้ผลผลิตสูง..การลงทุนก็ต้องมาก.. ยิ่งการเกษตรที่มีปัจจัยของธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว ความเสี่ยงก็สูงเช่นกัน...ไม่มีอะไร 100% เป็นไปตามเป้าหมายแค่80% ถือว่าสำเร็จแล้ว

งานที่ปริมทำ... ปลูกมันแล้วได้ผลผลิตอยู่ระหว่าง 5-8 ตันต่อไร่ ปริมพอใจนะ เพราะไร่ขนาดใหญ่..น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมา 1-2 ตันหมายถึงกำไรที่เพิ่มมามาก แต่การจะให้ได้เพิ่ม 1-2 ตัน... ต้นทุนต่อไร่ที่จะเพิ่มขึ้นอาจไม่ใช่ 50% แต่เป็นต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 100% ก็มี เวลาปริมคำนวณผลผลิต จะต้องนึกก่อนว่า ทำแล้วจุดคุ้มทุนของเราอยู่ที่ตรงไหน

มาดูตัวอย่างดังต่อไปนี้กันค่ะ

ต้วอย่างที่ 1

ปลูกมันสำปะหลัง 1 ไร่มีต้นทุน 5,000 บาท (รวมต้นทุนทุกอย่างแล้วค่าแรงค่ารถ-ค่าปุ๋ย-ยาค่าขุด)
ผลผลิตได้ 3.5 ตันต่อไร่ ขายได้ กก.ละ 2 บาท เป็นเงิน 7,000 บาท
กำไร = 7,000-5000 = 2,000 บาท
มาลองปรับต้นทุนให้ต่ำลงได้อีกจากการจัดการแปลงเรื่องหญ้าโดยการทำรุ่นหญ้าตอนมันอายุ 40 วันด้วยการไถพรวนและกลบปุ๋ย ลดการใช้ยาฆ่าหญ้าและค่าแรงฉีดยาได้อีกสมมุติ 2,000 บาท
ดังนั้นต้นทุนเหลือ 3,000 บาทต่อไร่ กำไร = 7,000-3,000 ได้กำไรไร่ละ 4,000 บาท

ตัวอย่างที่ 2

อยากได้ผลผลิตมันสำปะหลังเป็น 10 ตันต่อไร่ ทำยังไงได้บ้างๆ เช่นต้องเพิ่มระบบน้ำหยดและเพิ่มปุ๋ย ต้นทุนปีแรกประมาณ 12,0000 บาท (รวมทุกอย่างเลยนะคะ)
ได้ผลผลิต 10 ตันขายราคา กก.ละ 2 บาท ได้เงิน 20,000 บาท
= 20,000-12,000 กำไร 8,000 บาทต่อไร่


ตัวอย่างที่ 1 กำไรไร่ละ 4,000 บาท
ตัวอย่างที่ 2 กำไรไร่ละ 8,000 บาท
กำไรเพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 4,000 เป็น 8,000 ลองเปรียบเทียบต้นทุนกันระหว่าง
ผลผลิต 3.5 ตัน ลงทุน 3,000 บาท
ผลผลิต 10 ตันลงทุน 12,000 บาท
ความห่างของต้นทุนต่อผลผลิต คือ 9,000 บาท
แบบที่ 2 ทำ 100 ไร่ ต้นทุน 1,200,000 บาท กำไร 800,000 บาท
แบบแรกทำ 100 ไร่ ต้นทุน 300,000 กำไร 400,000 บาท

ถ้าเป็นคุณจะเลือกทำผลผลิต 3.5 ตันต่อไร่ หรือ 10 ตันต่อไร่ค่ะ แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน
ดังนั้น....ปริมจึงเลือกตอบคำถามของทุกสายที่โทรเข้ามาถามว่า ทำตามแบบของคุณได้กี่ตันต่อไร่..ด้วยคำตอบข้างต้นค่ะ

จุดคุ้มทุนและเงินลงทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นอย่าเอาผลผลิตเป็นตัวตั้ง จงเอาทุนของตัวเองเป็นตัวตั้งในการทำการเกษตรค่ะ ไม่ใช่แค่เรืองมันสำปะหลังอย่างเดียว แต่มันใช้ได้กับทุกพืชเลย....

เขียนโดย
ปริม-ฟาร์มเกษตร 
สนับสนุนโดย
iLab ตรวจดิน วิเคราะห์ธาตุอาหารในดิน www.iLab.Asia
ปุ๋ยตรา FK จากฟาร์มเกษตร ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ Law of the minimum

Popular posts from this blog

โรคของพืชตระกูลมะเขือ มะเขือใบเหลือง มะเขือใบไหม้ มะเขือใบแห้ง ใบด่าง โรคมะเขือจากเชื้อรา และการป้องกันกำจัด

โรคมะพร้าวยอดเน่า โรคใบจุดมะพร้าว โรคมะพร้าวต่างๆ ที่มีต้นเหตุจากเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส

แก้โรค ทุเรียนกิ่งแห้ง ทุเรียนยอดแห้ง ทุเรียนก้านธูป ด้วยการฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ป้องก้นและยับยั้งเชื้อรา