งาดำ บำรุงร่างกาย ผม ผิวพรรณ เล็บ กระดูก บำรุงหัวใจ


"งาดำ" นั้นเป็นพืชที่มีประโยชน์มาก และควรจะรับประทานอย่างต่อเนื่องในรูปแบบของ "อาหาร" เป็นประจำ จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพ เมื่ออายุมาก ชราลง ร่างกายจะแข็งแรงกว่าคนที่ละเลยไม่รับประทาน

งาดำ เป็นอาหารสารพัดประโยชน์ ช่วยบำรุงหลายส่วนของร่างกาย ทั้งผมผิวพรรณ เล็บ กระดูก เพิ่มแคลเซียม ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ บำรุงหัวใจให้แข็งแรง มีกรดไขมันดีมาก มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายหลายชนิด แม้คนที่ยังเด็กหรือไม่มีอาการป่วย ก็ควรรับประทานเป็นประจำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่ร่างกายตัวเอง และสำหรับผู้หญิงที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยทอง งาดำจำเป็นมาก เพราะจะช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้เนื่องจากมีแคลเซียมสูง

การรับประทานงาดำไม่แนะนำให้โรยในข้าวหรือใส่กับเครื่องดื่ม เพราะวิธีการรับประทานงาดำที่ดีที่สุดคือการเคี้ยว หากเราโรยข้าวหรือใส่เครื่องดื่ม บางครั้งไม่ได้เคี้ยว ร่างกายอาจจะดูดซึมไม่ได้เต็มที่ เข้าไปอย่างไรก็ออกมาอย่างนั้น ดังนั้น ต้องเคี้ยวเท่านั้น 


กินงาดำดี แต่รู้หรือไม่ ต้องกินอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายจริง

เราทั้งหลายอาจจะทราบกันดีว่า งาดำนั้นเป็นธัญพืชที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้สำหรับเอามาทำอาหาร, ของหวานต่างๆ หรือว่านำมาใช้เป็นยาในปัจจุบัน

การได้บริโภคน้ำมันงาดำเป็นประจำนั้น ย่อมทำให้ร่างกายเราได้รับสารอาหารต่างๆที่มีอยู่หลากหลายในน้ำมันงาดำ แต่ทว่า เรารู้กันหรือไม่ การบริโภคน้ำมันงาดำที่ถูกต้อง ถูกวิธี เพื่อที่จะได้รับสารอาหารต่างๆในงาดำนั้นอย่างครบถ้วน โดยที่ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาว่า เหตุใดเราก็กินงาดำเป็นประจำ แต่ทำไม ร่างกายเราไม่ได้รู้สึกหรือรับรู้ได้ว่าดีขึ้นเลย

การกินงาดำมีได้หลากหลายวิธี แต่ที่เราไม่ควรทำก็คือการกินงาดำทั้งเมล็ด เพราะว่าโครงสร้างภายนอกของเมล็ดงาดำเล็กๆนั้นมีความแข็งแรงที่ลำไส้ของเราไม่สามารถบดย่อย เพื่อที่จะนำสารอาหารที่อยู่ในเมล็ดงาดำออกมาใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้น หากเราคิดที่จะกินงาดำเพื่อสุขภาพแล้วล่ะก็ เราต้องนำเมล็ดงาดำนั้นมาบดให้ละเอียดเสียก่อน เพื่อให้ลำไส้ของเราได้ดูดซึมสารอาหารที่มีอยู่ในงาดำได้

การที่จะกินงาดำที่บดละเอียดแล้วนั้น ก็ต้องมั่นใจด้วยว่า เมล็ดงาดำนั้นๆไม่มีเชื้อราปนเปื้อน เนื่องจากเมล็ดงาดำเป็นธัญพืชที่มีเชื้อราขึ้นง่ายจำพวก สารพิษอาฟล่า (Afla Toxin) ซึ่งสารพิษนี้ส่งผลไม่ดีต่อตับและไตของเรา ด้วยเหตุนี้ ตามทั่วไป เราจึงเห็นการนำเมล็ดงาดำมาคั่วเพื่อป้องกันเชื้อรา แต่เราอาจลืมไปว่าในเมล็ดงาดำนั้นมีส่วนประกอบที่เป็นน้ำมันอยู่กว่าครึ่งหนึ่ง และน้ำมันงาดำนี้ก็มีจุดเผาไหม้ต่ำ เวลาที่เรานำไปคั่วนั้นจะก่อให้เกิดสารเผาไหม้และกลายเป็นสารที่ก่อมะเร็ง (Carcinogen) ซึ่งก็จะเป็นผลร้ายต่อร่างกายหากเราได้บริโภคเมล็ดงาดำเหล่านี้เข้าไป

การนำเมล็ดงาดำไปคั่วเพื่อกันเชื้อรานั้น อาจดูเป็นสิ่งดีที่สามารถป้องกันไม่ให้น้ำมันงาดำที่ได้นั้นมีเชื้อราและไม่มีกลิ่นหืนเพราะการไหม้ของงาจะไปกลบกลิ่นหืน แต่ด้วยวิธีการคั่วนี้ จะทำให้งาดำทำปฏิกิริยากับอากาศ ซึ่งส่งผลให้น้ำมันงาดำที่สกัดได้ด้วยวิธีนี้มีสารอาหารและคุณประโยชน์ลดถอยลง

และด้วยเหตุดังข้างต้นที่กล่าวมานี้เอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักโภชนาการจึงแนะนำให้เราบริโภคเมล็ดงาสดไม่ผ่านความร้อนที่ควรนำมาบดให้ละเอียด (แต่ต้องแน่ใจว่าเมล็ดงาดำที่ได้มานั้น ปลอดเชื้อรา) หรือบริโภคน้ำมันงาดำสกัดเย็นธรรมชาติ (โดยเมล็ดงาดำนั้นต้องปลอดเชื้อราและไม่ผ่านความร้อน) เพื่อให้ได้รับประโยชน์และปลอดภัยต่อสุขภาพของเราอย่างสูงสุด

ข้อมูลจาก
- thaiza.com
- xn--72c0ana3b5ffeb6trbh.net

รูปภาพจาก
- spokedark.tv
- thaiza.com

Popular posts from this blog

โรคของพืชตระกูลมะเขือ มะเขือใบเหลือง มะเขือใบไหม้ มะเขือใบแห้ง ใบด่าง โรคมะเขือจากเชื้อรา และการป้องกันกำจัด

โรคมะพร้าวยอดเน่า โรคใบจุดมะพร้าว โรคมะพร้าวต่างๆ ที่มีต้นเหตุจากเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส

แก้โรค ทุเรียนกิ่งแห้ง ทุเรียนยอดแห้ง ทุเรียนก้านธูป ด้วยการฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ป้องก้นและยับยั้งเชื้อรา