การปลูกมะละกอในกระถาง


จากที่เริ่มปลูกลงดินแล้วได้ผล ทีนี้มาปลูกลงกระถางกันบ้าง อย่างที่ทราบกันดี การปลูกมะละกอในกระถางนั้น ไม่ง่ายเหมือนปลูกลงดินปกติ แม้จะมีวิธีต่างกัน แต่ที่บอกว่ายาก ก็คือการเลี้ยงให้ต้นมะละกอติดผล เพราะโดยทั่วไปหากปลูกในกระถางแล้วนั้นมะละกอจะออกลูกยาก เนื่องจากแร่ธาตุของดินในกระถางนั้นน้อย ทำให้ต้นสูงและติดผลยาก บางครั้งก็เกิดการแคระแกรนของลำต้น มีดอกก็ฝ่อ หรือมีผลก็จะเหี่ยวไม่ให้ผลผลิตที่ดี

แต่เพราะมะละกอเป็นพืชที่โตง่าย โตเร็ว และไม่ค่อยมีแมลงศัตรูพืชมากเท่าไหร่ แต่การปลูกไว้กินเองที่บ้านอาจใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะในช่วงแรกๆ เนื่องจากรูปใบแผ่กว้างประมาณ 1 เมตร และคำโบราณอาจไม่ลูกหลานปลูกมะละกอติดบ้าน เพราะเกรงว่าจะไม่ดี จริงๆ แล้วการปลูกมะละกอไว้ใกล้บ้าน เวลาต้นตายมันจะเป็นโพรง รู ทำให้สัตว์เลื้อยคลานอันตราย เข้าไปอาศัยโพรงนี้ได้นั่นเอง แต่หากไม่มีพื้นที่ กระถางถือว่าเป็นคำตอบที่ดี โดยเรามาเริ่มต้นการปลูกมะละกอในกระถางกันเลย

เริ่มต้นด้วยการเตรียมดินปลูกมะละกอสำหรับในกระถางนั้น ให้เตรียมตากดินสำหรับปลูกมะละกอไว้ประมาณ 5 วัน เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคในดิน (จริงๆ สูตรนี้ใช้ได้กับพืชทุกชนิดที่ปลูกในกระถางเลย รวมทั้งการปลูกพืชทั่วไปลงดินด้วย) เสร็จแล้วนำดินที่เตรียมไว้ คลุกเคล้ากับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ แล้วจัดการนำใส่กระถาง 50 % ของความสูงกระถาง (คือใส่ไปครึ่งหนึ่งของกระถางเลย)


ต่อไป ส่วนที่เหลือในกระถางให้ใช้ดินผสมกาบมะพร้าวสับ หรือขุยมะพร้าว ใส่ลงไปเลย 50 % แล้วเริ่มต้นด้วยการเพาะเมล็ดมะละกอ หากไม่สนใจวิธีการอย่างเป็นทางการนัก ก็ให้นำเมล็ดมะละกอแช่น้ำไว้ 3 คืน (เฉพาะเมล็ดที่แห้งแล้ว) แต่หากเป็นเมล็ดสดที่ได้จากการรับประทานมะละกอก็อาจไม่ต้องถึง 3 คืน ประมาณ 1-2 คืนก็พอ โดยเปลี่ยนน้ำที่แช่บ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้ง เสร็จแล้วนำเมล็ดมะละกอที่ผ่านการแช่น้ำแล้วมาเพาะในถุงดินผสมขุยมะพร้าวที่เตรียมไว้โดยให้ใส่ 3-4 เมล็ดต่อถุง แต่หากจะลัดขั้นตอนก็นำไปหว่านลงกระถางได้เลย แล้วรดน้ำให้ชุ่ม กลบด้วยขุยมะพร้าวบางๆ ไม่ต้องหนามาก ให้รดทุกวัน ใช้เวลาประมาณ 9-10 วัน เมล็ดมะละกอก็จะงอกเป็นต้นอ่อนขึ้นมา หลังเป็นต้นอ่อนโตประมาณ 1 ข้อนิ้ว ทำการรดน้ำพอชุ่มวันละ 1 ครั้ง และควรอยู่ในที่ร่ม

ถ้าปลูกในถุงเพาะ เมื่อมีต้นมะละกอที่โตประมาณ 4-5 นิ้ว ก็สามารถนำมาลงกระถางได้เลยแบบไม่ต้องแยกต้น (กระถางละ 3-4 ต้น) โดยการขุดให้ลึกถึงดินที่ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก แล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม 2 วันครั้ง

เมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ จะมีต้นมะละกอที่สมบูรณ์ที่สุดและอ่อนแอที่สุดอยู่ในกระถางเดียวกัน ให้รดน้ำพอชุ่มประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือสังเกตุดินหากแห้งเกินไปรดน้ำให้ชุ่ม ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยอินทรีย์ เพิ่มเติมลงในกระถางได้หากรู้สึกว่าดินยุบตัว หลังจากที่การปลูกมะละกอในกระถางผ่านพ้นไปได้ประมาณ 3 เดือน ต้นมะละกอก็จะเริ่มออกดอก ให้เลือกตัดต้นที่อ่อนแอหรือต้นที่เป็นตัวผู้ตัวเมียทิ้งไปเลย ให้เหลือไว้แต่ต้นกะเทย เนื่องจากต้นกะเทยจะให้ผลที่ดก และลูกมะละกอที่ออกมาจะสวยงาม เนื้อหนากว่าต้นที่เป็นตัวเมียและตัวผู้

การสังเกตต้นมะละกอที่เป็นกะเทย ให้ทำการแหวกกลีบดอกดู ถ้าต้นไหนมีทั้งเกสรตัวเมียและตัวผู้อยู่ในดอกเดียวกัน ก็แปลว่าต้นนั้นเป็นต้นมะละกอกระเทย หลังจากต้นมะละกออายุได้ 8 เดือนไปแล้ว ก็จะสามารถให้ผลผลิตได้ ปกติแล้วต้นมะละกอจะมีอายุจนกว่าจะครบ 3 ปี จะไม่สามารถให้ผลผลิตได้อีก ต้องตัดทิ้ง

หากไม่ต้องการเปลี่ยนกระถางบ่อย ให้เลือกกระถางใหญ่ประมาณ 2 ฟุตขึ้นไป เพื่อต้นมะละกอจะโตได้เต็มที่และให้ผลผลิตได้ผลดีกว่า ซึ่งมะละกอที่ทดสอบปลูกในกระถางเป็นมะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์

ข้อมูลจาก kaset.vwander.com

Popular posts from this blog

โรคของพืชตระกูลมะเขือ มะเขือใบเหลือง มะเขือใบไหม้ มะเขือใบแห้ง ใบด่าง โรคมะเขือจากเชื้อรา และการป้องกันกำจัด

โรคมะพร้าวยอดเน่า โรคใบจุดมะพร้าว โรคมะพร้าวต่างๆ ที่มีต้นเหตุจากเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส

แก้โรค ทุเรียนกิ่งแห้ง ทุเรียนยอดแห้ง ทุเรียนก้านธูป ด้วยการฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ป้องก้นและยับยั้งเชื้อรา