ชาวดัตช์..ปล่อยวิชา ดู -ขี้- ดัชนีวัดโคนม


 “คนไทยเลี้ยงลูกวัวนมกันแบบผิดๆ มักจะปล่อยให้โตตามธรรมชาติ เลี้ยงอาหารไม่เหมาะสม ไม่สนใจดูแล วัวเลยโตช้า วันนี้ต้องกลับมาคิดใหม่การเลี้ยงดูลูกวัวให้ดี คือการลงทุนระยะยาว เมื่อลูกวัวโตเต็มที่พร้อมผสมพันธุ์ในช่วงเวลาเหมาะสม และจะกลายเป็นแม่วัวพันธุ์ดีให้น้ำนมมีคุณภาพ”

นายเลิศเกียรติ พูลผล ผู้จัดการแผนงานบริหารจัดการฟาร์มโคนม บ.ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายนมโฟร์โมสต์ บอกว่า คนเลี้ยงวัวนมบ้านเรามักคิดว่าถ้าให้อาหารลูกวัวมากจะเพิ่มต้นทุน เลยให้กินแต่หญ้า ช่วงไหนมีเงินถึงจะซื้ออาหารข้นมาเลี้ยงกันดีหน่อย

“บางตัวปล่อยกินฟางแห้งๆ แทบไม่มีคุณค่าอาหาร เลยทำให้วัวเป็นสัดผสมพันธุ์ช้า ต้องใช้เวลากว่า 2 ปี ผิดกับการเลี้ยงวัวนมของชาวเนเธอร์แลนด์ 2 ปี ได้ลูกวัวไปแล้ว 1 รุ่น”

ชาวดัตช์จะประคบประหงมลูกวัวตั้งแต่ตกลูกใหม่ๆ ต้องให้กินนมเหลืองภายใน 3-5 ชั่วโมง เพราะเป็นช่วงน้ำนมดีที่สุด ลูกวัวจะได้รับภูมิต้านทาน เหมือนกับลูกคน เมื่อหย่านมจะให้นมผงละลายน้ำ ลูกวัวอายุ 3 เดือนให้อาหารข้น+หญ้า+นมผง เพื่อกระตุ้นกระเพาะ “รูเมน” ให้เกิดการพัฒนา...เมื่อกระเพาะอาหารมีประสิทธิภาพ โคจะตัวโต ผลิตน้ำนมดีได้ปริมาณน้ำนมมาก

วัวจะโตได้มาตรฐานหรือไม่ จะมีวิธีคำนวณ ด้วยการวัดรอบอกค่า (ซม.) มาเทียบกับเส้นกราฟ (ในภาพประกอบ) ถ้าได้ค่าต่ำกว่าเส้นกราฟ แสดงว่าลูกวัวเติบโตช้า ต้องขุนด้วยอาหารข้น+หญ้า+นมผง ให้ค่ารอบอกได้เกณฑ์มาตรฐาน วัวจะมีสุขภาพดี เติบโตได้สมวัย อายุ 14-15 เดือน จะเป็นสัดพร้อมผสมพันธุ์...อายุ 2 ปี ให้ลูก 1 รุ่น

แต่คนทำฟาร์มวัวนมบ้านเราไม่เคยใช้วิธีนี้... ร้อยทั้งร้อยใช้สายตาคาดคะเนให้อาหารแบบตามใจคนเลี้ยง

อาหารก็เช่นกัน แม้บ้านเราจะมีหญ้าเนเปียร์ ที่กรมปศุสัตว์ศึกษามา ใช้เลี้ยงวัวได้อย่างดี เลี้ยงสดๆหรือเอามาหมักร่วมกับข้าวโพด...แต่วัวกลับให้ปริมาณน้ำนมไม่เป็นไปตามเกณฑ์


นั่นเพราะผสมผิดวิธี... หญ้าเนเปียร์หมักมีกลิ่นหอม สารอาหารเต็มเปี่ยมก็จริง แต่ข้าวโพดที่นำมาผสมไม่มีการบดตีให้แตก ผสมให้วัวกินแบบเต็มเมล็ด สุดท้ายวัวได้แค่อิ่ม ไม่ได้สารอาหารจากข้าวโพดไปบำรุงเลย

วัวจะได้ประโยชน์จากอาหารที่เราให้ไปหรือไม่ นางการิน ฟาน เดอ ธอร์น เกษตรกรชาวเนเธอร์แลนด์ แนะวิธีการสังเกตง่ายๆ...ให้เอามูลวัวมาใส่กระชอนร่อนน้ำ หากไม่มีกากใยเหลือ แสดงว่าอาหารหมักถูกวัวนำไปเปลี่ยนเป็นน้ำนมได้ดี คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป


แต่ถ้าในมูลวัวยังมีข้าวโพดเต็มเมล็ดให้เห็น แสดงว่าวัวไม่ได้เอาไปใช้ประโยชน์อะไรเลย...เรามีแต่เสียเงิน เปลืองต้นทุน โดยไม่ได้น้ำนมแลกมาสักหยดเดียว.

จาก thairath.co.th

http://www.farmkaset.org/html5/contents.aspx?con_id=02173

Popular posts from this blog

โรคของพืชตระกูลมะเขือ มะเขือใบเหลือง มะเขือใบไหม้ มะเขือใบแห้ง ใบด่าง โรคมะเขือจากเชื้อรา และการป้องกันกำจัด

โรคมะพร้าวยอดเน่า โรคใบจุดมะพร้าว โรคมะพร้าวต่างๆ ที่มีต้นเหตุจากเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส

แก้โรค ทุเรียนกิ่งแห้ง ทุเรียนยอดแห้ง ทุเรียนก้านธูป ด้วยการฉีดพ่น ไอเอส สารอินทรีย์ป้องก้นและยับยั้งเชื้อรา