Posts

Showing posts from June, 2013

การเพาะเมล็ดแตงโมง่ายๆด้วยตนเอง

Image
            เมล็ดแตงโมเป็นอาหารว่างที่อร่อยมาก เมื่อนำไปอบใส่เกลืออย่างที่ทุกท่านเคยซื้อทานเล่นเป็นอาหารว่างในเวลาพักผ่อน รสชาติจะหอมมันอร่อย ส่วนแตงโมสดก็เป็นผลไม้สดที่อร่อยเช่นเดียวกัน นำมาคั้นเป็นน้ำแตงโม หรือนำไปปั่นเป็นสมูตตี้ก็อร่อยได้หลากหลายเช่นเดียวกัน เชื่อว่าทุกท่านเคยรับประทานแตงโมสด และมักจะเบื่อหน่ายกับเวลาที่ต้องแคะเมล็ดออก สำหรับคนที่ไม่ชอบรับประทานทั้งเมล็ด อย่างผู้เขียนเองก็เช่นเดียวกันไม่ชอบทานเมล็ดต้องคอยแคะออกเวลาทานแตงโมสดและมักจะเห็นว่าเมล็ดแตงโมที่เราแคะออกมานั้นไม่มีประโยชน์อะไรแล้วก็นำไปทิ้ง แต่จริงๆแล้วเราสามารถนำเมล็ดไปเพาะเพื่อนำไปปลูกได้ สำหรับผู้อ่านท่านใดสนใจ เรามีวิธีการเพาะเมล็ดแตงโมมาฝากครับ              การเพาะเมล็ดแตงโมอย่างง่าย                         เมื่อเรารับประทานแตงโมสด ให้แคะเมล็ดออกมารวมเอาไว้จนหมดทั้งลูก จากนั้น ไปเตรียมดินเป็นดินที่ผสมปุ๋ยคอกหรือเป็นดินสำเร็จรูปที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายพืชพรรณต่างๆ นำดินใส่กระถาง หรือถ้าถนัดปลูกในแปลงก็สามารถปลูกได้เลยหลังจากนั้นขุดหลุมเล็กๆ หรือนำช้อนโต๊ะมาขุดดินให้เป็นหลุมลึกประมาณ

ปลูกแค ไม่ต้องดูแลมาก

Image
         ต้นแคเป็นพืชพื้นบ้านของไทย นิยมปลูกไว้เพื่อนำดอกและยอดมารับประทาน สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น แกงส้มดอกแค ลวกกินกับน้ำพริก ส่วนยอดก็นำมาต้มมาลวกได้เช่นกัน คนไทยรุ่นตารุ่นยายก็นิยมปลูกไว้ แต่สมัยนี้ก็ยังมีบ้าง แต่เด็กสมัยใหม่ไม่ค่อยนิยมรับประทานกัน เพราะไม่รู้ว่าดอกแคสามารถทานได้ อีกทั้งอาหารที่เด็กสมัยนี้นิยมรับประทานก็มากจากพืชผักที่นำมาประกอบอาหารง่ายๆ อย่างผักเกษตร             สำหรับการปลูกแคนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะต้นแคเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย ปลูกไว้ได้บริเวณพื้นที่รอบๆบ้าน ไม่ต้องดูแลมาก เป็นพืชที่ปลูกง่ายและโตเร็ว แมลงไม่ค่อยรบกวน ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการใช้สารเคมี วันนี้จึงนำวิธีการปลูกแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก มาฝากกัน วิธีการปลูก                                                                                                     เตรียมดินที่ร่วนระบายน้ำได้ดี พื้นที่ในการปลูกประมาณ 2x2 เมตร การปลูกก็ปลูกเหมือนพืชชนิดอื่นๆ คือ เตรียมดินพรวนดิน เสร็จแล้วก็นำต้นอ่อน ใช้ต้นอ่อนที่โตพอสมควร ขุดหลุมแล้วก็นำต้นแคปลูกลงดิน กลบดินให้เสมอ ใส่ปุ๋ยค

ปลูก พลูด่าง ปลอดภัยไร้สารพิษ

Image
         พลูด่าง เป็นพืชไม้ประดับที่เราจะเห็นได้บ่อย เนื่องจาก พลูด่าง เป็นพืชที่มีความเจริญเติบโตได้เร็ว คนนิยมปลูกไว้ในบ้านหรือบริเวณบ้านกันมานานแล้ว พลูด่าง เป็นพืชที่มีความสวยงาม ทั้งลักษณะของใบที่เป็นรูปหัวใจและห้อยย้อยเวลานำไปแขวนมีสีเขียวด่างด้วยสีขาวเป็นพืชที่มีความสวยงามชนิดหนึ่งเมื่อห้อยย้อยลงมาแล้วทำให้เวลาเราพบเห็นรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา ผู้คนส่วนใหญ่จึงนิยมปลูกกัน ไม่เพียงแต่ให้ความสวยงามเพียงเท่านั้น พลูด่าง ยังสามารถดูดสารพิษในอากาศ ทำให้อากาศในบริเวณโดยรอบสดชื่นอีกด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการปลูก มีวิธีการปลูกมาแนะนำครับ ดังนี้ วิธีการปลูก             ปักชำกิ่งหรือต้นที่มีใบสามารถปักชำในน้ำหรือในดินก็ได้ปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิด ส่วนผสมของดินที่ใช้ คือ 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ทราย ส่วนที่สอง ปุยมะพร้าวหรือเศษใบไม้แห้ง ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักละลายน้ำเจือจางรดเดือนละครั้ง             การดูแล พลูด่าง เป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก เป็นพืชที่ชอบน้ำ ดังนั้นเราต้องดูแลเอาใจใส่คอยสังเกตอย่าให้น้ำแห้ง  ถ้าในห้องอากาศโดยรอบร้อนมากๆ เราควรใช้น้ำมาเช็ดที่ใบหมาดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการ

พืชดอกไม้ประดับ สีจากธรรมชาติ

Image
         สีนับเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการนำมาประกอบอาหารเพื่อการบริโภค เพราะสีสามารถเพิ่มความสวยงามและทำให้อาหารดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น สำหรับการเลือกสีนั้นจำเป็นต้องเลือกสีที่มาจากธรรมชาติเพื่อความปลอดภัยต่อการบริโภค สีที่ได้จากธรรมชาติไม่เพียงแต่หาง่ายเท่านั้น อีกทั้งยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย มีสารอาหารที่จำเป็น เพื่อที่ร่างกายจะสามารถนำไปใช้และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย ที่สำคัญคือต้องไม่เป็นอันตรายด้วย วันนี้ผู้เขียนมีวิธีการเลือกสีต่างๆ เพื่อนำไปประกอบอาหารคาว - หวาน มาแนะนำให้ผู้อ่านได้ศึกษาเกี่ยวกับพืชชนิดใดสามารถทำให้เกิดสีใดได้บ้างและมีประโยชน์อย่างไรบ้างไปดูกันเลยครับ สีต่างๆจากธรรมชาติ             สีเขียว : ใบเตย นำใบเตยมาคั้น จะได้น้ำสีเขียวและมีกลิ่นหอม ในใบเตยประกอบไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน กากใย แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เบต้า - แคโรทีน วิตามินบี ไนอะซิน และวิตามินซี             สีเหลือง : ขมิ้น มีสารอาหารที่สำคัญ เช่น วิตามินเอ ซี อี และเกลือแร่             สีแดง : น้ำกระเจี๊ยบ นิยมนำมาต้มใส่น้ำตาลหวาน

การปลูกผักชี

Image
การปลูกผักชี การเตรียมดิน    แปลงปลูกอาจเตรียมแบบยกร่องจีน มีคูน้ำล้อมรอบแบบยกร่องธรรมดา หรือปลูกในแปลงนา โดยการไถพรวนแล้วโรยเป็นแถว ผักชีเป็นผักที่มีระบบรากตื้น การเตรียมดินปลูกผักชีก็ปฏิบัติเช่นเดียวกับการปลูกผักอื่นๆ ทั่วไป โดยขุดหรือไถพลิกดินลึกประมาณ 15-20 เซนติเมตร ตากดินไว้ 5-7 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรคและวัชพืชต่างๆ แล้วพรวนย่อยดินให้แตกเป็นก้อนเล็ก ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักให้มาก คลุกเคล้าให้เข้ากับดินและปรับหน้าดินให้เสมอ การเตรียมเมล็ดพันธุ์ ผักชีเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ด้วยการใช้เมล็ด ดังนั้นก่อนที่จะปลูกต้องเตรียมเมล็ดพันธุ์ให้พร้อม โดยการนำผลมาบดให้แตกเป็นสองซีก แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วเอาขึ้นมาผึ่งลมให้แห้งแล้วเคล้ากับทรายหรือขี้เถ้าทิ้งไว้จนเมล็ดเริ่มงอกจึงนำไปหว่านในแปลง วิธีการปลูกผักชีอย่างถูกวิธีคือ ก่อนปลูกต้องรดน้ำให้ทั่วแปลง นำเมล็ดที่เตรียมไว้มาหว่านลงบนแปลงปลูกที่ได้เตรียมไว้ กลบด้วยดินละเอียดบางๆ แล้วคลุกด้วยฟางหรือหญ้าแห้งอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันต้นอ่อนจากแสงแดดและรักษาความชื้นของผิวดิน หรือจะปลูกโดยใช้วิธีโรยเป็นแถวบนแปลง ให้แต่ละแ

เรามารู้ผักชีกันเถอะ

Image
เรามารู้ผักชีกันเถอะ ผักชีที่เราเห็นกันอยู่ทั่วบ้านทั่วเมืองนั้นที่เรามักจะใส่เป็นผักโรยหน้าในอาหารไทยต่างๆนั้นจะมีชื่อเรียกหลายชนิดแตกต่างกันไป เช่น ภาคเหนือเราก็จะเรียกว่า ผักหอมป้อมและผักหอมผอม ส่วนภาษาภาคอีสานเราจะเรียกผักชีว่า ผักหอมน้อย และที่นครพนมเรียกว่า ผักหอม ผักชีเป็นผักที่อยู่ในตระกูล  Unbelliferae  มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Coriandrum sativa Linn.  เป็นผักชนิดที่ใช้บริโภคส่วนของใบและก้านใบเป็นผักสด หรือใช้รับประทานกับสาคูไส้หมู ต้นและรากใช้เป็นส่วนประกอบอาหารได้หลายอย่าง    ใช้ต้มเป็นน้ำซุปหรือน้ำก๋วยเตี๋ยวทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติดี เมล็ดใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องแกงของเครื่องแกงเผ็ด นำมาบดคลุกกับเนื้อวัวสดใช้ทำเนื้อสวรรค์ที่มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน กลิ่นหอมของเมล็ด ราก ใบ และต้นของผักชีสามารถใช้ดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้ ผักชีจะจัดอยู่ในกลุ่มของพืชล้มลุกที่มีอายุสั้นคือ ประมาณ 40-60 วัน ลำต้น ราก ใบ ก้านใบ ดอก และเมล็ดมีกลิ่นหอม สามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียว ดินร่วน ร่วนปนทราย แต่จะชอบดินร่วน มีการระบายน้ำดีสามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของ

กระถิน ริมรั้ว

Image
         กระถิน เป็นพืชที่ขึ้นง่าย ทนความแล้ง มักจะพบเห็นบริเวณรั้วบ้านบ้างบางบ้านก็ปลูกทำเป็นรั้วซะเลย กระถิน เป็นพืชที่มีประโยชน์ แต่หลายคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนว่า กระถิน มีประโยชน์มากแค่ไหน กระถิน เป็นไม้ยืนต้น มีดอกเป็นลักษณะกลมๆ เป็นปุยๆสีขาวออกเหลืองๆ มีกลิ่นหอม ใบจะเป็นใบเล็กๆ ขึ้นตามกิ่งใบที่แตกออกไปลักษณะจะเป็นวงรีสีเขียว ส่วนฝัก กระถิน จะเป็นฝักยาวๆ คล้ายๆสะตอแต่ขนาดเล็ก มีเมล็ดอยู่ด้านในเป็นเม็ดเล็กๆ มีรสชาติขมนิดๆ แต่อร่อย เหมาะสำหรับทานกับน้ำพริก บ้างก็นำมายำ สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด             ในสมัยก่อน กระถิน เป็นพืชที่นิยมทานกันมาก แต่ในสมัยนี้ไม่ค่อยมีคนปลูกไว้ทานคนส่วนมากหันไปสนใจผักอื่นๆ ที่เป็นผักเกษตรกันหมด มีแค่เพียงบางส่วนสำหรับคนต่างจังหวัดอาจจะบ่อยครั้งในการนำมาประกอบอาหารมากกว่าคนเมือง เพราะในเมืองก็ค่อนข้างหายาก อีกทั้งยังไม่มีพื้นที่ให้ปลูกและที่สำคัญไม่นิยมปลูก             กระถิน ถึงแม้จะเป็นผักริมรั้ว แต่ก็มีรสชาติที่อร่อย ทานกับน้ำพริก ส้มตำ ยำยอด กระถิน สามารถเก็บมาทานได้หลายส่วน เช่น ยอด กระถิน ฝักกระถิน และมีอีกหลายๆอย่าง เช

ผักตำลึง ประโยชน์จากริมรั้ว

Image
         ผักตำลึง คนไทยเรารู้จักกันดีและเห็นกันจนชินตา เพราะตำลึงเหมือนวัชพืชอย่างหนึ่งที่ขึ้นริมรั่ว ทำให้บ้านรกไปด้วยเถาไม้เลื้อย หลายคนเลยมองว่ามันคือวัชพืช ที่ไม่เจริญหูเจริญตาและมักจะกำจัดด้วยการถอนเถาตำลึงไปทิ้ง แต่เดี๋ยวก่อนนะครับตำลึกไม่ได้มีแต่สร้างความรำคาญ แต่ยังเป็นผักที่มีสารอาหารและคุณประโยชน์มากมายเลยทีเดียว สามารถนำมาประกอบอาหารได้ อร่อยด้วย เช่น เด็ดยอดตำลึงมาต้มจืดเต้าหู้อ่อนใส่หมูสับ เป็นอาหารที่มีคุณประโยชน์ครบถ้วนมากๆเลยครับ             ผักตำลึงมีสารอาหารสำคัญคือ เอนไซม์อะไมเลส แบต้าแคโรทีน ช่วยย่อยอาหารจำพวกแป้งได้ดีเหมาะสำหรับคนลดน้ำหนัก อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยา สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ ดังนี้ สรรพคุณ รักษาโรคเบาหวาน :   ใช้เถาแก่ๆ ประมาณ 1 กำมือ ต้มกับน้ำ หรือน้ำคั้นจากผลดิบ ดื่มวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น จะสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้                 ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ :   ควรรับประทานสด ๆ เพราะเอนไซม์ในตำลึงจะย่อยสลายง่ายเมื่อโดนความร้อน                  ลดอาการคัน อาการอักเสบเนื่องจากแมลงกัดต่อยและพืชมีพิษ :   นำใบตำลึงสด 2-20 ใบ ตำใ

ประโยชน์ของ การปลูกมะกรูด

Image
ประโยชน์ของ การปลูกมะกรูด มะกรูดนั้น เป็นพืชที่อยู่คู่ครัวไทยมานานและจัดได้ว่าเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมายมหศาล เลยก็ว่าได้ เมื่อเอ่ยชื่อ มะกรูด แทบไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จัก เป็นที่ทราบกันมาแต่โบร่ำโบราณแล้วว่ามะกรูดจะไม่เพียงแต่ทำให้ผมดำเงางาม เท่านั้น แต่มะกรูดยังกำจัดรังแค แก้คันศรีษะ แก้ผมแตกปลาย ป้องกันผมร่วง และหงอกช้าอีกด้วย  กรรมวิธีในการนำมะกรูดมาสระผมนั้นก็มีด้วยกันหลายวิธี แต่ที่นิยมมากเห็นจะเป็นการนำลูกมะกรูดไปเผาไฟแล้วนำน้ำมายีที่ศรีษะแล้ว ล้างออก แต่ด้วยวิวัฒนการที่ทันสมัยมากขึ้นในปัจจุบัน จึงเห็นมะกรูดเป็นส่วนประกอบในแชมพูสระผม ครีมนวด หลายยี่ห้อนอกจากนี้แล้วนั้นมะกรูดยังได้อยู่คู่ครัวไทยมานานแสนนาน ดังจะเห็นได้จากอาหารขึ้นชื่อหลายชนิดเลย ทีเดียวที่มีส่วนผสมของมะกรูด ที่มองไม่เห็นว่าใช้มะกรูดเป็นส่วนผสมก็ได้แก่ พริกแกงต่างๆ ของไทยที่ใช้ผิวจากลูกมะกรูดเป็นส่วนผสม น้ำมะกรูดใช้ปรุงรสเปรี้ยวในแกงเทโพ แกงส้ม เพราะมีกลิ่นหอม รสเปรี้ยวอมหวานกลมกล่อม อาหารบางอย่างที่เห็นชัดเจนว่ามีมะกรูดเป็นส่วนผสมนั้น ได้แก่ ต้มยำ ต้มข่า ต้มแซบ หรือซอยโรยหน้าห่อหมก ฉู่ฉี่ พะแนง และใส

การปลูก มะกรูด

Image
การปลูก มะกรูด มะกรูด ปลูกได้ดีในดินทุกชนิด ระยะปลูกมะกรูด นั้นปลูกได้หลายระยะ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และพื้นที่ของผู้ปลูก ซึ่งระยะปลูกไม่ควรติดกันเกิน 1 เมตร โดยทั่วไปนิยมปลูกมะกรูด ระยะชิด คือ 2 x 2 เมตร 1 ไร่จะได้มะกรูด 400 ต้น หากปลูกระยะ 1.5  x  1.5 เมตร 1 ไร่จะได้ 1067 ต้น ในการปลูกระยะชิดนี้จะเป็นการปลูกมะกรูด เพื่อจำหน่ายใบ เนื่องจากมีการตัดใบจำหน่ายทุกๆ 3  –  4 เดือน  พุ่ม มะกรูด ก็จะไม่ชิดกันมาก หากต้องการปลูกเพื่อจำหน่ายเป็นลูก มะกรูด ผู้ปลูกอาจปลูกระยะห่าง 4 x 4 เมตร 1 ไร่จะได้ 200 ต้น หรือ 5 x 5 เมตร 1 ไร่จะได้ 65 ต้น เป็นต้นการ ปลูก มะกรูด ตัดใบ ต้องเลือกสภาพพื้นที่ปลูกให้เหมาะสม โดยเลือกพื้นที่เป็นสภาพดินร่วนปนทราย หรือพื้นที่ที่มีการระบายน้ำที่ดีเพราะ มะกรูด เป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำขัง ที่สำคัญการปลูก มะกรูด เพื่อตัดใบขายนั้นจะต้องมีสภาพแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ ถึงแม้มะกรูดจะเป็นพืชทนแล้งและไม่ต้องการน้ำมาก แต่หากเราต้องการจำหน่ายใบ มะกรูด ทั้งปี การให้น้ำมีความจำเป็นในการแตกใบของ มะกรูด เป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในฤดูแล้ง จะเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ย. ไปจนถึงเดือน พ.ค.การเตรีย

ฟักแฟงหรือฟักเขียว ทานอาหารหรือทานยา

Image
กลับมาอีกครั้งสำหรับผักที่ใช้ในเมนูลูกรัก อย่างฟักแฟง เป็นผักที่มีรสชาติจืดๆ แต่มีประโยชน์ ส่วนมากมักจะนำมาต้ม เป็นเมนูให้เด็กๆรับประทาน เพราะทานง่าย รสชาติไม่ขม และเหมาะสำหรับคนไข้ที่พักฟื้น อีกทั้งยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย หลายคนอาจจะไม่รู้ นึกว่าเป็นแค่อาหาร ไม่ได้คิดว่ามีสรรพคุณทางยาอยู่ด้วย ยิ่งทานยิ่งได้ประโยชน์ ฟักเขียวเป็นไม้เถาเลื้อยตระกูลแตง ใบมีสีเขียวเป็นหยักใบหยาบ ดอกมีสีเหลือง ผลเป็นรูปกลมยาวขนาดปานกลางถึงขนาดใหญ่ เปลือกสีเขียวมีขนอ่อนเล็กน้อย เนื้อในจะมีสีขาว เนื้อแน่น ฉ่ำน้ำ ตรงกลางมีเมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปลูกได้ในดินร่วนปนทรายระบายน้ำได้ดี เป็นผักที่มีอายุการปลูกสั้น ปลูกเพียง 3 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตได้ สรรพคุณ                                                                      ใบ : แก้ฟกช้ำ แก้พิษผึ้งต่อย ช่วยรักษาบาดแผล แก้โรคบิด แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้บวมอักเสบมีหนอง                  ผล : ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ แก้ธาตุพิการ แก้โลหิตเป็นพิษ บวมน้ำ หลอดลมอักเสบ                  เมล็ด  : ใช้ลดไข้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้โรคทางเดินปัสสา

มะระขี้นก หายากสรรพคุณมาก

Image
         หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักกับ มะระขี้นก เพราะส่วนใหญ่พืชชนิดนี้จะขึ้นตามป่าตามเขามักไม่ค่อยพบแห่งกันจนชินตาเท่าไหร่ แถวบ้านผู้เขียนเรียก มะไห่ ลักษณะของ มะระขี้นก จะเป็นพืชไม้เลื้อยคล้ายๆตำลึง แต่ลูกจะเล็กและขรุขระ มีสีเขียว ผลจะประมาณลูกตำลึงได้ มีดอกสีเหลือง เมื่อผลสุกจะเป็นสีเหลืองถึงสีส้ม มีเม็ดสีแดง อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงสรรพคุณแล้วมีมากมายเลยทีเดียว ใช้สำหรับรักษาโรคต่างๆ ได้ ถือเป็นสมุรไพรที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักนัก วันนี้เลยนำมาให้ผู้อ่านศึกษาเกี่ยวกับสรรพคุณของ มะระขี้นก กันครับ มีดังนี้             สรรพคุณ ผลแห้ง  มะระขี้นก   : รักษาโรคหิด ผล  มะระขี้นก   : รสขม เย็นจัด ใช้แก้ร้อนกระหายน้ำทำให้ตาสว่าง แก้บิด ตาบวมแดง แผลบวมเป็นหนอง ฝีอักเสบ เมล็ด  มะระขี้นก   : รสขม ชุ่ม ไม่มีพิษ แก้วัวถูกพิษใช้คั้นเอาน้ำให้กิน เป็นยากระตุ้นความรู้สึกทางเพศ เพิ่มพูนลมปราณ บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ใบ  มะระขี้นก   : แก้โรคกระเพาะ บิด แผลฝีบวมอักเสบ ขับพยาธิ ดอก  มะระขี้นก   : รสขม เย็นจัด ใช้แก้บิด ราก  มะระขี้นก  : รสขม เย็นจัด ใช้แก้ร้อน แก้พิษ บิดถ่ายเป็นเล

การปลูกมังคุด ตอนที่ 3-3

Image
ระยะการปลูกมังคุดที่เหมาะสม ระยะการปลูกมังคุดที่เหมาะสมอยู่ในช่วง    9-10 เมตร ในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกมังคุดได้ ประมาณ 16-20 ต้น ในกรณีที่ปลูกด้วยต้นเสียบยอด ซึ่งให้ผลผลิตได้ ตั้งแต่อายุ 3-4 ปี อาจใช้ระยะปลูก 5 X 5 เมตร เมื่อต้นมังคุดมีขนาดใหญ่ขึ้น มีทรงพุ่มชนกัน ให้ตัดต้นมังคุดออกยกเว้นต้น จะทำให้ต้นที่เหลือมีระยะปลูกเป็น 10 X 10 เมตรการเตรียมหลุมปลูก หลุมที่ปลูกมังคุดควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 50 X 50 X 50 เซนติเมตร ให้ใช้ปุ๋ย หินฟอสเฟตประมาณ1/2 กระป๋องนม หรือประมาณ 100-150กรัมต่อหลุม  และปุ๋ยคอกเก่าที่สลายตัวแล้ว ประมาณ 1 บุ้งกี๋ คลุกเคล้ากับดินบนให้ทั่วแล้วกลบกลับคืนลงไปในหลุมให้ระดับดินสูงกว่าเดิมเล็กน้อยเผื่อ ไว้สำหรับดินยุบตัวในภายหลังการปลูก ต้นกล้าที่นำมาปลูก ควรมีความสมบูรณ์ โดยใบคู่สุดท้าย ควรจะเป็นใบที่แก่เต็มที่แล้ว และ ควรเป็นต้นกล้าที่มีอายุประมาณไม่เกิน 2 ปี มีระบบรากแผ่กระจายดี ไม่ขดม้วนงออยู่ก้นถุง ก่อนปลูกควรตัด ใบให้เหลือครึ่งใบทุก ๆ ใบ เพื่อลดการคายน้ำ นำต้นกล้าไปปลูกตรงกลางหลุม ปลูกให้ลึกเท่ากับระดับดินเดิม แล้วพูนดินบริเวณโคนต้นให้เป็นเนินสูงขึ้นมาเล็กน

การปลูกมังคุด ตอนที่ 2-3

Image
การเสียบยอกและการเตรียมพื้นที่ที่จะปลูกมังคุด การเสียบยอด  ต้นตอที่ใช้ในการเสียบยอด นอกจากจะใช้ต้นตอจากการเพาะเมล็ดมังคุดแล้ว อาจใช้ต้นตอจากพืชชนิดอื่นที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน เช่น ชะมวงมะพูดป่า พะวา รง ซึ่งใช้ได้ช่นกัน ต้นตอที่เหมาะสม ควรมีอายุประมาณ 2 ปี หรือมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลำต้นประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรยอดพันธุ์ดีต้องเป็นยอดจากต้นที่สมบูรณ์ให้ผลผลิตมาแล้ว และควรเป็นยอดจาก กิ่งที่ชี้ตั้งขึ้น เพื่อให้ได้ต้นมังคุดที่มีทรงต้นตรงสวยงาม รวมทั้งจะต้องเป็นยอดที่มีขนาดใกล้เคียงกับขนาด ของต้นตอ                                         วิธีการเสียบยอดมังคุด มีดังนี้ 1.ตัดต้นตอสูงจากพื้น 20-25 เซนติเมตร และตัดเหนือข้อใบประมาณ 1-2 เซนติเมตร แล้ว ผ่ากลางต้นลึกเลยข้อไป 1-2 เซนติเมตร 2.ตัดยอดกิ่งพันธุ์ให้เหลือใบไว้ 2 ชั้นใบนับจากตายอดหรือมีจำนวนใบ 4 ใบ บริเวณที่ตัดอยู่ใต้ ข้อใบคู่ล่าง 1-2 เซนติเมตร ตัดคู่ใบบนออกครึ่งใบ เฉือนยอดกิ่งพันธุ์ให้เป็นรูปลิ่ม โดยเฉือนด้านที่มี ใบติดทั้งสองข้าง ให้ข้อใบอยู่บริเวณส่วนกลาง ของรอยแผล 3.นำยอดพันธุ์เสียบลงในแผลต้นตอให้ ข้อของยอดพันธุ์

การปลูกมังคุด ตอนที่ 1-3

Image
การปลูกมังคุด วิธีการเพาะปลูกมังคุด มังคุดจะมีอยู่พันธุ์เดียวเราเรียกกันว่าเป็นพันธุ์พื้นเมือง เพราะมังคุดเป็นพืชที่ปลูกด้วยเมล็ด และเมล็ดมังคุดไม่ได้ เกิดจากการผสมเกสร จึงแทบจะไม่มี โอกาส กลายพันธุ์ได้เลย แม้จะพบว่ามังคุดสายพันธุ์จากเมืองนนท์ มีผลเล็กและเปลือกบาง มังคุดปักษ์ใต้เปลือกหนา แต่ยังไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนพอที่จะแยก เป็นพันธุ์ได้ สำหรับวิธีการขยายพันธุ์มังคุดสามารถขยายพันธุ์ได้หลายวิธี  เช่น การเพาะเมล็ด เสียบยอด และทาบกิ่ง แต่วิธีที่นิยมปฏิบัติกันอยู่ คือ การเพาะเมล็ดโดยตรง เพราะสามารถทำได้สะดวกรวดเร็ว ต้นมังคุดที่ได้ไม่กลายพันธุ์ แต่มีข้อเสีย คือ ต้องใช้เวลาประมาณ 7-8 ปีกว่าจะให้ผลผลิต ถ้ามีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีก็อาจเร็วกว่านี้ได้เล็กน้อยส่วนการขยายพันธุ์ด้วยวิธีเสียบยอดที่นำพันธุ์ดีจากต้นที่เคยให้ผลมาเป็นวิธีที่ช่วยให้มังคุดให้ผลผลิตได้เร็วขึ้น การเพาะเมล็ด เมล็ดมังคุดที่นำมาเพาะควรได้จากผลมังคุดที่แก่จัดและเป็นผลที่ยังสดอยู่เพราะ จะงอกได้ดีกว่า เลือกเมล็ดที่มีขนาดใหญ่ล้างเนื้อและเส้นใยออกให้สะอาดแล้วรีบนำไปเพาะ แต่ถ้าไม่สามารถ เพาะได้ทั

ประโยชน์ของยางพารา

Image
ประโยชน์ของยางพารา  ยางพาราเป็นพืชยืนต้นขนาดใหญ่ มีอายุยืนยาวหลายสิบปีเป็นพืชใบเลี้ยงคู่ ซึ่งมีส่วนประกอบต่างๆ ดังนี้    ลักษณะของราก - เป็นระบบรากแก้ว    ลักษณะของลำต้น - กลมตรง ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ   1. เนื้อไม้ ยางพาราจัดเป็นไม้เนื้ออ่อน เนื้อไม้มีสีขาวปนเหลืองอยู่ด้านในกลางลำต้น   2. เยื่อเจริญ เป็นเยื่อบางๆอยู่โดยรอบเนื้อไม้มีหน้าที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับต้นยาง   3. เปลือกไม้ เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากเยื่อเจริญออกมาด้านนอกสุด ช่วยป้องกันอันตรายที่จะมากระทบต้นยาง เปลือกของต้นยางนี้มีความสำคัญต่อเกษตรกรชาวสวนยางมาก เนื่องจากท่อน้ำยางจะอยู่ในส่วนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปลือกด้านในที่ติดอยู่เยื่อเจริญจะมีท่อน้ำยางอยู่มากที่สุด ลักษณะของใบ - เป็นใบประกอบโดยทั่วไป 1 ก้านใบจะมีใบย่อย 3 ใบ มีหน้าที่หลักในการปรุงอาหารหายใจและคายน้ำ ใบยางจะแตกออกมาเป็นชั้น ๆ เรียกว่า "ฉัตร" ระยะเวลาเริ่มแตกฉัตรจนถึงใบในฉัตรนั้นแก่เต็มที่จะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ยางจะผลัดใบในฤดูแล้งของทุกปี ยกเว้นยางต้นเล็กที่ยังไม่แตกกิ่งก้านสาขาหรือมีอายุไม่ถึง 3 ปี จะไม่ผลัด